วันที่ 25 กันยายน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกคำสั่งเพื่อตั้งกรรมการสอบส.ส.ที่มีการกดบัตรแทนกัน หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์นำคลิปพฤติกรรมดังกล่าวมาเปิดเผย หรือนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของสภาไทย และเพื่อให้ระบบการปกครองที่รัฐบาลเรียกร้องให้ยึดหลักการของรัฐสภามีความศักดิ์สิทธิ์ ถ้านายสมศักดิ์ไม่เร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวจะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องควบคุมดูแลเรื่องในสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
นายบุญยอดยังได้สอบถามถึงกรณีที่มีการตั้งคณะกรรมการร่วมรัฐสภาเพื่อตรวจสอบสมาชิกรัฐสภาที่มีพฤติกรรมการกดบัตรแทนกันด้วยว่า คณะกรรมการร่วมดังกล่าวมีการประชุมเพียง 2 ครั้งและหลังจากที่นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ได้ลาออกจากประธานกรรมการตรวจสอบฯ เพราะได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา ก็ไม่มีการประชุมตรวจสอบอีก และจนถึงขณะนี้การตรวจสอบดังกล่าวไม่มีบทสรุปออกมาที่ชัดเจน ดังนั้นขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต่อเนื่องและจริงจังด้วย นอกจากนั้นในส่วนของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ต้องออกมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้เชื่อว่าคนที่กระทำความผิด ต้องมีมากกว่า 5 คนอย่างแน่นอน และเมื่อมีการพิสูจน์ได้ว่าหากมีกากระทำผิดจริงเชื่อว่าจะส่งผลให้การลงมติในวันนั้นเป็นโมฆะ
ทางด้าน นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 กันยายน เวลา 11.00 น. ตนพร้อมนายวันชัย สอนศิริ และนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา จะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวนสมาชิกรัฐสภาจำนวน 310 คน ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มที่มาของส.ว. เนื่องจากระหว่างการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว พบพฤติกรรมของสมาชิกและประธานในที่ประชุม ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตราที่เกี่ยวกับการใช้สิทธิและเสรีภาพ และมาตรา 122 ว่าด้วยเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เพราะพบว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ได้มีผลประโยชน์ที่เอื้อกับส.ว.ชุดปัจจุบัน
โดยเฉพาะนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ที่ให้สัมภาษณ์ว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ว.อีกครั้งหลังจากที่หมดวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2556 และประเด็นที่สำคัญคือ การพบพฤติกรรมของส.ส.ที่มีการกดบัตรลงคะแนนแทนกันระหว่างการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มที่มาของส.ว. เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ทั้งนี้การยื่นเรื่องดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 62 ว่าด้วยการร้องขอให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ขอบคุณข่าวจากคมชัดลึกออนไลน์
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ