เมื่อวันที่ 24 กันยายน นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเรื่อง แนวทางการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 สำหรับส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา โดยครม.มีมติเห็นชอบและอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ 1.เห็นชอบในหลักการให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 1,400 ล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 สำหรับส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ที่ได้จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการและประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 เพิ่มเติมจากที่มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 เพื่อการนี้ไว้แล้วในงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการปรับเงินค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ จำนวน 2,000 ล้านบาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีประมาณ พ.ศ.2555 ของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ที่เหลือจ่ายประมาณ 345 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,745 ล้านบาท
นายธีรัตน์กล่าวต่อว่า 2.อนุมัติให้หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัด และผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา สามารถโอนเปลี่ยนแปลงรายการเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 เหลือจ่ายที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี ไปตั้งจ่ายในงบบุคลากร เพื่อเบิกจ่ายเป็นเงินรางวัลสำหรับผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 โดยไม่ต้องขออนุมัติสำนักงบประมาณ เป็นราย ๆ ไป ทั้งนี้ เป็นการผ่อนผันการปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยมีหลักการจัดสรรเงินรางวัล มีดังนี้ 1.การจัดสรรเงินรางวัล เป็นการจ่ายค่าตอบแทนตามผลงาน(Performance Pay) ซึ่งเป็นค่าตอบแทนที่ไม่มีผลผูกพันระยะยาว เพื่อจูงใจให้ข้าราชการสร้างสรรค์ผลงานโดยยึดโยงกับเป้าประสงค์ขององค์กรเป็นสำคัญ 2.ส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ที่ได้ดำเนินการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการและมีผลการประเมินการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปี ผ่านเกณฑ์ในระดับมาตรฐานหรือบรรลุค่าเป้าหมาย คือ ตั้งแต่ระดับคะแนน 3.0000 คะแนน ขึ้นไป จึงมีสิทธิได้รับการจัดสรรเงินรางวัลประจำปี 3.จำนวนเงินรางวัลที่ส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาได้รับขึ้นอยู่กับผลการประเมินการปฏิบัติราชการ ตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของส่วนราชการจังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ในการจัดสรรให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำในสังกัด ห้ามไม่ให้มีการเฉลี่ยเท่ากันหรือหารยาว
ขอบคุณข่าวจาก คมชัดลึกออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ