นายสวิง จันทรากูล ชาวบ้านชุมชนแม่ลัว ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 สิงหาคม เวลา 13.00 น. ชาวบ้านประมาณ 150 คน จะไปยื่นหนังสือถึงนายอำเภอแม่จัน เพื่อให้ตรวจสอบที่ดินสาธารณะของหมู่บ้านแม่ลัวจำนวนกว่า 100 ไร่ ที่เอกชนอ้างเอกสารสิทธิ์ครอบครอง ทั้งนี้เนื่องจากชาวนากว่า 150 คนถูกนายทุนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินใน พื้นที่หนองหลวง ต.ท่าข้าวเปลือก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบเชียงแสน ข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีต่อทุกคนที่ทำนาในบริเวณดังกล่าว โดยให้เวลาทำนาได้เพียงปีนี้ปีเดียวเท่านั้น หากยังฝ่าฝืนก็จะแจ้งความข้อหาบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล

นายสวิงกล่าวว่า พื้นที่ทำนาดังกล่าวมีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ แต่ชาวบ้านจับจองกันทำประโยชน์โดยไม่มีใครเป็นเจ้าของมาช้านาน ซึ่งในปีนี้ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือน  ใน ต.ท่าข้าวเปลือกลงทุนพันธุ์ข้าวครัวเรือนละ 1 ถัง เพื่อเพาะปลูกและรอเก็บเกี่ยวผลผลิตมาแบ่งปันกัน โดยหว่านข้าวเปลือกทิ้งไว้ตั้งแต่ช่วง เดือน มิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามนอกจากปัญหาเรื่องนายทุนแอบอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้ว ยังพบว่าบริเวณหนองหลวงกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาแก้มลิงของภาครัฐ ทำให้ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนกันมากเนื่องจากเกิดน้ำท่วมในหน้าน้ำหลากมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดังนั้นชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างสะพานไม้ความยาวกว่า 300 เมตร เดินข้ามไปทำนา แต่กลับถูกตำหนิจากทั้งผู้ใหญ่บ้านและนายทุนว่าสร้างสะพานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่ได้ข่มขู่บ่อยครั้ง

               “เขาบอกว่า จะเอาที่นาไปทำประโยชน์ในฐานะเจ้าของที่ดิน โดยอ้างว่ามีเอกสารสิทธิ์ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเพราะชาวบ้านบางคน เอาที่ดินสาธารณะในหนองหลวงที่เขาเคยทำประโยชน์ไปขาย จากนั้นก็การขายต่อเปลี่ยนมือเรื่อย ๆ จนกระทั่งอาจมีการออกเอกสารสิทธิ์ปลอมเพื่อครอบครอง เพื่อทำไร่พืชเศรษฐกิจ อย่างสับปะรด และยางพารา แต่พวกเราชาวท่าข้าวเปลือกรู้ดีว่าที่ดินดังผืนนี้ ไม่มีเจ้าของที่แน่นอน ที่ผ่านมา ชาวบ้านใช้หาปลา หาผัก แบ่งปันกันกิน เราไม่เคยคิดว่าวันหนึ่ง ใครก็ไม่รู้มาอ้างว่าเป็นสมบัติของตัวเอง เราจึงยอมไม่ได้ต่อการสูญเสียพื้นที่ส่วนรวม และคงต้องหาทางต่อสู้ต่อไป” นายสวิงกล่าว