เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ ด. 3776/2548 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสมคิด พุ่มพวง อายุ 50 ปี ชาวนครศรีธรรมราช ฆาตกรต่อเนื่อง หมอนวดแผนโบราณ เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมาน โดยกระทำการทารุณโหดร้าย และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) (5),335

คดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2548 สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2548 ระหว่างเวลากลางคืน จำเลยได้เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กระทำโดยทรมาน ทารุณโหดร้ายเป็นเหตุให้นางพัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ ขาดอากาศหายใจ ถึงแก่ความตาย ซึ่งหลังจากกระทำการแล้วจำเลยได้ลักเอาโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ราคา 1,000 บาท และเงินสด 2,000 บาท รวม 3,000 บาท ของนางพัชรีย์ ผู้ตายไปโดยทุจริต เหตุเกิดที่ต.ทับเทียง อ.เมือง จ.ตรัง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 ฐานฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต และมาตรา 334 ฐานลักทรัพย์ผู้อื่น จำคุก 2 ปี แต่เมื่อรวมลงโทษทุกความผิดแล้วให้จำคุกไว้ตลอดชีวิต และให้ริบของกลาง พร้อมทั้งชดใช้เงิน 700 บาทค่าทรัพย์สินคืนให้ทายาทผู้ตายด้วย ต่อมาจำเลย ยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว เห็นว่า โจทก์มีพยานเบิกความยืนยันถึงรูปพรรณสัณฐานของจำเลยได้อย่างถูกต้อง และพยานสามารถชี้ตัวยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้าย อีกทั้งในสถานที่เกิดเหตุพบเส้นผมของจำเลยตกอยู่บนเตียงนอน และพบรอยนิ้วมือของจำเลยในห้องพัก ซึ่งจากการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของจำเลยไปตรวจพิสูจน์ตามหลักวิชาการแล้ว พบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันจริง จึงเชื่อว่าจำเลยอยู่ในห้องที่เกิดเหตุในช่วงวันและเวลาที่เกิดเหตุจริง พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักเชื่อถือได้ และพยานโจทก์ก็ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน

ส่วนข้ออ้างของจำเลยที่ต่อสู้คดีเป็นเพียงคำกล่าวอ้างลอย ๆ อีกทั้งจำเลยไม่ได้นำสืบโต้แย้งหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า จำเลยเป็นคนร้ายซึ่งนัดผู้ตายให้มาพบในห้องพักที่เกิดเหตุก่อนจะลงมือฆ่าผู้ตายและหลบหนีไป

ส่วนเรื่องลักทรัพย์นั้นเห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่าผู้ตายมีเงิน 2,000 บาทติดตัวไปด้วย อีกทั้งจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่แน่ชัด จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา เห็นว่าจำเลยไม่มีความเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปสร้างความวุ่นวายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในการพิจารณาคดีจำเลยยังไม่สำนึก ปฏิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุให้แก้ไข อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสมคิด ฉายา “แจ็ก เดอะริปเปอร์เมืองไทย” ถูกยื่นฟ้องถึง5 คดี ซึ่งศาลมีคำพิพากษาทั้งหมดแล้ว ประกอบด้วย

1.คดีหมายเลขดำ ด.3223/ 2548 ก่อเหตุฆ่า-ชิงทรัพย์มูลค่า 50,000 บาท น.ส.วารุณี พิมพะบุตร อายุ 25 ปี นักร้องสาว “แสงตะวันคาเฟ่ ” เมื่อวันที่ 30 -31 มกราคม 2548 ในห้องพักโรงแรมพลอยพาเลซ จ.มุกดาหาร ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 ยืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกตลอดชีวิต

2.คดีหมายเลขดำ ด.3184/2548 ก่อเหตุบีบรัดคอฆ่า น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย หมอนวดแผนโบราณจนเสียชีวิตและลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือมูลค่า 5,000 บาท เหตุเกิดที่ จ.ลำปาง เมื่อปี 2548 โดยศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2553 แก้โทษจากที่ศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิต ให้เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต

3.คดีหมายเลขดำ ด.3776/2548 ก่อเหตุทำร้าย นางพัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ จนขาดอากาศหายใจและลักทรัพย์มูลค่า 700 บาท ที่ จ.ตรัง เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2548 โดยศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่  21 มีนาคม 2554 ให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแล้วในวันนี้ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกตลอดชีวิต

4.คดีหมายเลขดำ ด.3231/2548 ฆ่าน.ส.พรตะวัน ปังคะบุตร อายุ 37 ปี และลักเอาโทรศัพท์มือถือผู้ตาย เมื่อวันที่ 17-19 มิถุนายน 2548 เหตุเกิด ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2555 ยืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกตลอดชีวิต

5.คดีหมายเลขดำ อ.3232/2548 ก่อเหตุบีบคอฆ่าน.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ อายุ 25 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จนเสียชีวิต และลักเอาสร้อยคอทองคำ แหวน กระเป๋าถือ โทรศัพท์มือถือ และทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่ากว่า 12,200 บาท เมื่อวันที่ 20-21 มิถุนายน 2548 เหตุเกิดที่ ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2556 ยืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกตลอดชีวิต