กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รายงานสถิติผลการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 5 กลุ่มพื้นที่กรุงเทพมหานคร 88 สน. ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน ประกอบด้วย 1.กลุ่มคดีประเภทอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ 2.กลุ่มคดีประเภทประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกายและเพศ 3.คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน 4.กลุ่มคดีที่น่าสนใจ อาทิ โจรกรรมรถและคดีลักทรัพย์ และ 5.กลุ่มคดีที่รัฐเป็นผู้เสียหายทั้งคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ฉ้อโกง การพนันและค้าประเวณี
เป็นคดีความผิดอาญาเกิดขึ้นทั้งหมด 52,884 คดี เปรียบเทียบกับสถิติการเกิดคดีอาชญากรรม 5 กลุ่ม ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2555 ตั้งแต่กรกฎาคม-ธันวาคม ที่ผ่านมา พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคดีประเภทประทุษร้ายต่อทรัพย์ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ตำรวจนครบาลรับแจ้งเหตุคดีทั้งหมด 5,229 ครั้ง จับกุมได้ 1,847ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 35 คิดเป็นอัตราเฉลี่ยการเกิดคดี 6 เดือน 180 วัน มีคดีประเภทลักวิ่งชิงปล้น ประทุษร้ายต่อทรัพย์เกิดขึ้นวันละ 29 คดี ซึ่งเป็นคดีที่มีการรับแจ้ง และดำเนินคดีทางอาญาเท่านั้น ไม่รวมถึงคดีที่เจ้าทุกข์ไม่เข้าแจ้งความอีกจำนวนมาก
จากสถิติพบว่าความผิดที่เกิดขึ้นบ่อยและมากที่สุดอันดับ 1 คือ ข้อหาลักทรัพย์เกิดขึ้นทั้งหมด 4,541 คดี อันดับ 2 ข้อหาวิ่งราวทรัพย์เกิดขึ้น 241 คดี ข้อหาทำให้เสียทรัพย์เกิดขึ้น 221 คดี ข้อหาชิงทรัพย์เกิดขึ้น 194 คดี และข้อหาปล้นทรัพย์ 53 คดี
ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทกลุ่มคดีที่น่าสนใจนั้น มีสถิติการเกิดคดีลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติการเกิดคดีในช่วง 6 เดือนหลัง ของปี 2555 เนื่องจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพิ่มมาตรการป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถเข้มข้นขึ้นมีการระดมปราบปรามกดดันอย่างต่อเนื่อง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเฝ้าระมัดระวังป้องกันรถยนต์รถจักรยานยนต์ของตนเองมากขึ้นโดยมีคดีโจรกรรมรถยนต์เกิดขึ้น 184 คดี จับกุมได้ 7 คดี คดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์เกิดขึ้น 1,252 คดี จับกุมได้ 127 คดี สาเหตุที่ไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายและของกลางได้เนื่องจากมีการนำรถที่โจรกรรมไปได้ ไปแยกชิ้นส่วนขายภายในเวลาอันรวดเร็ว ยากต่อการตรวจสอบและติดตามคืน
สำหรับกลุ่มความผิดประเภทคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ พบว่า ในรอบ 6 เดือนของครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พบว่า สถิติคดีมีแนวโน้มสูง จากการเกิดคดีเพิ่มขึ้นกว่า 6 เดือนหลังของปี 2555 แต่ไม่มากนัก เฉลี่ยร้อยละ 5.2 พบคดีเกิด 299 คดี จับกุมได้ 210 คดี เป็นคดีค้างเก่าตามหมายจับ 49 คดี คิดเป็นผลงานการจับกุมเฉลี่ยร้อยละ 70 ข้อหาที่เกิดขึ้นมากที่สุดคือ ชิงทรัพย์และทำร้ายเจ้าทรัพย์ 141 คดี รองลงมาเป็นคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 96 คดีและคดีปล้นทรัพย์โดยทำร้ายเจ้าทรัพย์ 53 คดี
กลุ่มที่ 2 คดีชีวิต ร่างกาย และเพศ เกิดขึ้นทั้งหมด 1,757คดี จับกุมได้ 897คดี ข้อหาที่เกิดขึ้นมากเป็นอันดับ 1 คือ ข้อหาทำรายร่างกาย 1,356 คดี รองลงมาคือ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา 137 คดี และข้อหาพยายามฆ่า 130คดี
กลุ่มที่ 3 คดีที่น่าสนใจเกิดขึ้นทั้งหมด 3,403 คดี จับกุมได้ 449 คดี เป็นคดีตามหมายจับค้างเก่า 722 คดีความผิดที่เกิดขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ โจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวม 1,436 คดี รองลงมาเป็นความผิดข้อหายักยอกทรัพย์ 1,125คดี และข้อหาฉ้อโกง 841 คดี
กลุ่มที่ 4 ประเภทคดีความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา มีคดีเกิดขึ้น 42,196 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ผู้ต้องหา 47,913 คน คดีที่จับกุมได้มากที่สุดคือ ยาเสพติด 31,629 คดี รองลงมาคือ การปราบปรามการค้าประเวณี 5,611 คดี และความผิดจำพวกการพนันทั่วไป และการพนันสลากกินรวบ 3,920 คดี
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ