ที่นี่สะพานควาย...โมเดิร์นเทรด-สะดวกซื้อ-โชวห่วย สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร

 

อรรคณัฐ วันทนะสมบัติ โรงเรียนนักข่าว TCIJ 6 ก.ค. 2556 | อ่านแล้ว 4130 ครั้ง

 

 

หลายคนอดเป็นห่วงบรรดาร้านขายของชำ  หรือ “โชวห่วย” ไม่ได้  เพราะนอกจากต้องรับศึกหนักจากบรรดาร้านสะดวกซื้อ ที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดทุกตรอกซอกซอย  ไหนจะพวกโมเดิร์นเทรดหรือ ดิสเคาท์สโตร์  ทั้งบิ๊กซี โลตัส  เมื่อ แม็คโคร ที่เคยประกาศตัวเป็นมิตรแท้โชวห่วย กลับกลายเป็นเจ้าเดียวกับ 7-11 ไป งานนี้ทำท่าว่า “มิตรแท้” อาจจะกลายเป็น “ศัตรูถาวร” ไปซะฉิบ

 

ท่ามกลางการแข่งขันในสมรภูมิที่ร้อนระอุ ร้านโชวห่วยต่างล้มหายตายจาก พากันปิดตัวชนิดกราว รูด กลับปรากฏมีขุนศึกที่หาญกล้า พร้อมจะยืนแลกหมัดชนิดตาต่อตาฟันต่อฟันกับบรรดายักษ์ใหญ่  และงานนี้ดูเหมือนว่า คงจะต้องสู้กันจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บเลยทีเดียว เขาคนนั้นคือ “เฮียใช้” แห่งร้าน “เกียรติสิน” ย่านสะพานควาย

 

“รับอะไรจ๊ะ ”   หญิงวัยกลางคน รูปร่างผอมบาง ท่าทางทะมัดทะแมง เอ่ยปากถามทันทีที่เห็นผมปรากฏตัวในร้าน  เธอคงแปลกใจไม่น้อยที่เห็นคนแปลกหน้าแต่งตัวด้วยสีชมพูทั้งชุดมายืนด้อมๆมองๆ อันที่จริง มันคืออุบายของผมที่จะแนะนำตัวว่าเป็นนิสิต  จะมาขอสัมภาษณ์เพื่อเอาข้อมูลไปทำรายงานส่งอาจารย์ เพราะหน้าตาของผมมันเลยวัยนักเรียนไปมากโขแล้ว  ผมเลยเอาเสื้อมหา’ลัยมาใส่ หวังจะช่วยทำให้แหล่งข้อมูลสบายใจที่จะพูดคุย  ไม่งั้นแกอาจคิดว่าผมมาจากสรรพากรและไล่ผมออกจากร้านก็เป็นได้

 

หลังจากแนะนำตัวและแจ้งวัตถุประสงค์การมาของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เธอบอกว่า ให้รอคุยกับเฮียใช้ สามีของเธอที่เดินไปหยิบของด้านในร้านให้ลูกค้า  ไม่นานนักเฮียใช้ก็เดินกลับมาหน้าร้าน ในมือมีเนยเทียมก้อนขนาดย่อมติดมือออกมาด้วย  เฮียใช้ส่งของให้ลูกค้าที่ยืนรออยู่ พูดคุยกับลูกค้าพลางบรรจุเนยเทียมลงถุงหูหิ้ว  “ถ้าพี่จะทาขนมต้องใช้อันนี้แหละดี  แต่ถ้าจะทาขนมปังปิ้งต้องอันที่สีเหลืองเข้มกว่านี้”

 

เฮียส่งถุงให้พร้อมรับเงินมาใส่กระเป๋าเสื้ออย่างคล่องแคล่ว ผมสังเกตเห็น เฮียใช้พยายามชวนลูกค้าพูดคุย ถามว่ามีโน่นมีนี่หรือยัง  เฮียสามารถเชียร์ขายลูกเกดให้ลูกค้ารายนี้ไปใส่ขนมได้อีกด้วย

 

เมื่อเฮียใช้เสร็จธุระจากลูกค้า เจ๊นีก็แนะนำผมให้กับเฮียพร้อมอธิบายถึงเหตุผลการมาเยือน  ผมอธิบายเสริมเล็กน้อยว่าที่ผมเลือกมาคุยกับร้านนี้เพราะดูขายดี มีของเยอะ ที่สำคัญอยู่ตรงข้ามบิ๊กซีพอดิบพอดี จริงๆในใจผมคิดเอาเองว่า ร้านโชวห่วยของเฮียใช้ทำเลไม่ดีเอาเสียเลย ดันมาอยู่ตรงข้ามกับบิ๊กซีพอดี ลูกค้าคงเลือกไปเดินซื้อของในห้างปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่ามายืนเหงื่อแตก ซื้อของจากร้านที่ข้าวของดูไม่มีระเบียบ ผมแค่พูดเอาใจแกไปอย่างนั้นเอง

 

ผมถูกขัดจังหวะการพดูคุยจากลูกค้าที่มีเข้ามาตลอดเวลา นอกจากเฮียใช้กับเจ๊นีแล้ว  ยังมีลูกจ้างที่เฮียบอกว่าเป็นคนพม่าอีกสองคน ทั้งหมดดูวุ่นวายกับการขายของ ผมเริ่มรู้สึกว่าประเมินศักยภาพของร้าน ห้องแถวขนาดหนึ่งคูหาผิดถนัดเลย จริง ๆ

 

          “เมื่อก่อนแถวนี้ขายของชำกันเยอะแยะ สะพานควายมันเป็นย่านค้าขาย  เป็นชุมทางการค้า  คือรอบนอกไม่ต้องเข้าไปถึงสำเพ็ง ก็มาซื้อที่นี่  เฮียอยู่มาเกือบสี่สิบปีแล้ว ” เฮียใช้เล่าถึงอดีตของสะพานควาย

 

          “มันปิดไปกันหมด ไอ้พวกนี้มันโง่ ไม่ปรับตัว แล้วใจไม่สู้”

 

เฮียเล่าถึงประวัติโดยย่อของร้านว่า ช่วงแรกขายวัตถุดิบที่ใช้ทำเบเกอรี่ต่างๆ ตอนหลังก็เปลี่ยนมาขายอย่างอื่นอีกมากมาย  ไม่รู้เหมือนกันว่าในร้านมีสินค้ากี่ชนิด  “มันก็มีเยอะอย่าง” คือคำตอบ เมื่อถูกถามถึงจำนวนและประเภทของสินค้าในร้าน

 

ผมยิงคำถามสำคัญว่า การมาของบิ๊กซี และ 7-11 ทำให้ธุรกิจของแกได้รับผลกระทบหรือไม่ เฮียใช้ตอบว่า แรกๆก็กระทบ  ตอนหลังก็รู้จกปรับตัว  หาสินค้าที่ไม่มีขายในบิ๊กซีมาขาย

 

          “เฮียก็เดินข้ามไปดูในบิ๊กซี อะไรที่มันไม่มีขายแล้วมันน่าจะขายได้ ก็เอามาขาย เวลาคนไปหาที่ บิ๊กซีไม่มี  เค้าก็ข้ามมาถามว่าไอ้นี่มีมั้ย พอลูกค้ารู้ว่าที่นี่มี คราวหน้าก็ก็ลับมาซื้ออีก ของที่บิ๊กซีมีก็ซื้อที่บิ๊กซี ถ้าไม่มีเขาก็ข้ามมา”

 

ในร้านเฮียใช้ มีสินค้าหลายชนิดที่ผมไม่คิดว่าจะมีขายในร้านของชำ  เช่น “เนื้อเค็ม”  และ “ขนมปังปี๊บ” เป็นต้น

 

          “ร้านก็ไม่ต้องจัดให้มันสวย ลูกค้าจะได้ถาม เราก็จะได้คุย ตรงนี้สำคัญ เราคุยกับลูกค้าเราก็ขายอย่างอื่นได้อีก  และก็คุ้นเคยกัน  บางคนกลายเป็นเพื่อนไป”

 

ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่เฮียใช้สามารถขายลูกเกดให้กับลูกค้าที่มาซื้อเนยได้แบบเนียนๆ

 

          “แต่เราอย่าไปถามโง่ ๆ นะ เฮียไปซื้อมีดโกนหนวดที่เซเว่น มันถามจะเอาซาลาเปามั๊ย ซื้ออะไรก็ถามจะเอา ซาลาเปามั้ย  แทนที่จะถาม เออ อาเฮีย ครีมโกนหนวดมีรึยัง มันเหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีชีวิตจิตใจเอะอะอะไรก็ ซาลาเปา”  เฮียพูดไปหัวเราะไป การสนทนาเริ่มเป็นกันเองมากขึ้น เฮียใช้ เล่าเทคนิคของแกให้ผมฟัง

 

          “พวกนี้เค้าขายเงินสด เราขายเชื่อบ้าง พวกที่ไว้ใจกันรู้จักกันมานาน ก็เซ็นต์ของไปก่อนได้ บางคนเขาหาเช้ากินค่ำ ทุนหมนุเวียนน้อย เราก็ช่วยถ้าช่วยได้แต่ไม่ได้ให้เยอะนะ มีโดนเบี้ยวบ้าง” เฮียใช้ลดระดับเสียงลง สายตาชำเลืองไปที่เจ๊นี โชคดีที่เจ๊นีกำลังติดลูกค้ารายอื่นอยู่ เลยไม่ทันได้ยินประโยคหลัง

 

ผมถามต่อถึงข้อข้องใจของผม  ผมอยากรู้ว่า ร้านโชวห่วยคิดดอย่างไรในกรณี ซีพีซื้อหุ้นแม็คโคร อยากรู้ว่าเขาคิดกังวลหรือไม่  คำตอบที่ได้รับจากปากเฮียใช้ น่าสนใจมาก

 

          “ก็ไม่เห็นเป็นไร การค้ามันก็แบบนี้ จะไปห้ามเค้าได้ยังไง ถ้าเฮียมีเงินเยอะแบบไอ้เซเว่น เฮียก็อาจจะทำอย่างนี้ สำคัญมันต้องปรับตัว มัวแต่กลัว โวยวายโน่นนี่ ไม่ปรับตัวมันก็เจ๊ง เหมือนร้านค้าแถวนี้  เซเว่นมาก็ไปหมด ยิ่งบิ๊กซีมาก็เรียบร้อย มันต้องปรับตัว จะเล็กจะใหญ่ก็ต้องปรับตัว บิ๊กซีก็ต้องปรับตัวถ้าไม่ปรับวันนึงมันก็เจ๊งได้เหมือนไอ้... ไอ้ตรงเนี้ย มันชื่ออะไรวะ มันชื่ออะไรวะเธอ ตรงสี่แยก” เฮียใช้ตะโกนถามเจ๊นี

 

            “เมอร์รี่คิงส์” เจ๊นีตอบ

“เออ เมอร์รี่คิงส์ ตอนนั้นมันห้างใหญ่ สุดท้ายมันก็เจ๊ง” 

            “เซเว่นก็ดี ลูกผมมันยังไปทำงานพิเศษที่นั่นเลย”

 

ผมถามต่อไปว่าแล้วลูก ๆ ของเฮียจะสืบทอดกิจการต่อไปหรือไม่  “ก็แล้วแต่มันนะ  เฮียก็ทำจนกว่าจะไม่มีแรง ลูก ๆ ก็ปล่อยเค้า เด็กสมัยนี้พ่อแม่สอนมันไม่ได้ ก็ให้คนอื่นช่วยสอน ให้เซเว่นสอนมัน” น้ำเสียงของเฮียดูจะบ่นลูก ๆ มากกว่า เจ๊นีหันมายิ้มให้ผม เหมือนจะส่งสัญญาณบางประการ

 

จากการพดูคุยกับเฮียใช้และเจ๊นีในวันนั้น ทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนไป การค้าในโลกทุนนิยมที่ผมเคยคิดว่ามันคือภาวะมือใครยาวสาวได้สาวเอา ปลาใหญ่จ้องจะกินปลาเล็ก เมื่อผมได้มาเจอกับยอดนักสู้ที่พร้อมจะปรับตัวไปตามสถานการณ์ สามารถที่จะพลิกข้อเสียเปรียบมาเป็นข้อได้เปรียบ เปิดรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอด ทำให้ผมเชื่อว่าถ้าเราเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนอย่างชาญฉลาด เราจะยังคงมีที่ให้ยืนอยู่เสมอ

 

ผมเดินออกมาจากร้าน ขณะที่ฝนกำลังตกปรอย ๆ ผมไม่ได้พกร่มติดตัวมาซะด้วย แถมยังสะพาย กล้องถ่ายรูป คิดในใจถ้าฝนลงหนักกว่านี้คงดูไม่จืด นึกขึ้นได้ว่าที่ 7-11 ก็มีเสื้อกันฝนขาย

 

          “เสื้อกันฝนอย่างเดียวยี่สิบห้าบาทค่ะ จะรับเซาลาเปาเพิ่มมั้ยคะ?”

 

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: