เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน เรือรณรงค์ของกรีนพีซ เอสเพอรันซา เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยจอดทอดสมอบริเวณหน้าหาดสมิหลา จ.สงขลา การเดินทางนี้เป็นช่วงที่ 2 ของการรณรงค์เพื่อปกป้องทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอสเพอรันซาซึ่งแปลว่า ‘ความหวัง’ ในภาษาสเปน มายังภูมิภาคนี้เพื่อประกาศความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลอันอุดมสมบูรณ์ และเพื่อเรียกร้องทางแก้ปัญหาที่ทะเลแถบนี้กำลังเผชิญอยู่
ในโอกาสการมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกของเรือเอสเพอรันซา กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถลงเปิดงานรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทรอย่างเป็นทางการ ในโครงการ “ฟื้นชีวิตทะเลไทย กับเรือเอสเพอรันซา” กรีนพีซร่วมกับเครือข่ายท้องถิ่นและชุมชนชายฝั่งทะเลจะเปิดโปงภัยที่คุกคามท้องทะเลของเรา และเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ปรับปรุงกฎหมายและนโยบายเกี่ยวกับการประมงให้มีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องทะเลของเรา และเพื่อคนไทยทุกคนซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นชีวิตให้ทะเล
นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา กล่าวว่า นครสงขลาขอต้อนรับเรือเอสเพอรันซาสู่ประเทศไทย และยินดีร่วมสนับสนุนภารกิจฟื้นชีวิตทะเลไทยในครั้งนี้ สงขลาเป็นจังหวัดที่ต้องพึ่งพิงทะเลเป็นอย่างมาก เราต้องการจะปกปักรักษาท้องทะเลเพื่อลูกหลานของเราในอนาคต
ด้าน น.ส.ศิรสา กันตรัตนากุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทร กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ในอดีตทะเลไทยเคยคับคั่งไปด้วยฝูงปลาและสัตว์น้ำน้อยใหญ่มากมาย แต่ทุกวันนี้ ทรัพยากรทางทะเลเหล่านี้กำลังใกล้จะหมดไป แนวปะการังกำลังจะตาย ระบบนิเวศป่าชายเลนและหญ้าทะเลที่สำคัญต่อความเป็นอยู่ของสัตว์น้ำกำลังสูญสลาย งานรณรงค์ด้านทะเลนี้ เพื่อเรียกร้องให้คนไทยทุกคนและทุกภาคส่วน รัฐบาล เอกชน องค์กรอิสระ และองค์กรไม่แสวงหากำไร มาร่วมกันฟื้นชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ให้กับท้องทะเลบ้านเรา
ในบรรดาภัยคุกคามหลัก ๆ ที่ทะเลไทยเผชิญอยู่ นอกจากการลดลงของแนวปะการัง ป่าชายเลน และหญ้าทะเล ก็คือการประมงแบบทำลายล้าง และการประมงผิดกฎหมาย อุตสาหกรรมประมงพาณิชย์ยังละเมิดสิทธิในทรัพยากรชายฝั่งที่ถูกกำหนดไว้ สำหรับการทำประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก ถือเป็นการทำลายวิถีชีวิตชุมชนพื้นบ้านอีกด้วย
นายบรรจง นะแส ประธานสมาคมรักษ์ทะเลไทย กล่าวในคำแถลงการณ์ภาคประชาชนบนเรือเอสเพอรันซาว่า ถึงเวลาแล้วที่ ‘คนกินปลา’ ต้องลุกขึ้นมาปกป้องแหล่งอาหารโปรตีนของโลกให้หลุดออกจากกลุ่มทุนอุตสาหกรรมประมงที่เอาเปรียบและเห็นแก่ตัว พื้นที่ทุกตารางนิ้วในอ่าวไทยผ่านการถูกอวนลากกวาดมาแล้วจนราบเรียบ กลายเป็นพื้นโคลนโล่งๆ จนสัตว์น้ำไม่มีโอกาสแพร่ขยายพันธุ์ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกันหยุดประมงทำลายล้างให้หมดสิ้นไป
ดร.โอภาส ปัญญา กรรมการที่ปรึกษาบริหาร กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า กรีนพีซ หวังว่าการที่เรือเอสเพอรันซาเดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกนี้จะสามารถสร้างความตื่นตัวให้สังคมเกี่ยวกับปัญหาความเสื่อมโทรมของทะเลไทย เพื่อร่วมกันสร้างพลังในการอนุรักษ์ปกป้องฟื้นฟูทะเลของเรา กรีนพีซขอเชิญคนไทยทุกคนมาร่วมลงชื่อที่ www.defendouroceans.org เพื่อเป็นผู้พิทักษ์รักษ์ทะเล และเพื่อปกป้องทะเลของเรา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางการประมงที่สำคัญในภาคใต้ของไทย และเป็นแหล่งพลังของชุมชนประมงพื้นบ้านที่ต่อสู้เพื่อปกป้องทะเลอันเป็นแหล่งอาหารและเป็นวิถีชีวิตของพวกเขา การจัดงาน ‘ฟื้นชีวิตทะเลไทย กับเรือเอสเพอรันซา’ ในจ.สงขลาครั้งนี้ เป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายอนุรักษ์มากมาย อาทิ เทศบาลนครสงขลา สมาคมรักษ์ทะเลไทย สมาคมสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย สงขลาฟอรั่ม ประมงพื้นบ้านจังหวัดสงขลา วิทยาลัยวันศุกร์ เครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะ เครือข่ายพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา และอื่นๆ เพื่อร่วมกันส่งเสียงให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทะเล การยุติการทำประมงทำลายล้าง หยุดสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำบนชายหาด และหยุดการพัฒนาอุตสาหกรรมสกปรก
สำหรับเรือเอสเพอรันซามีกำหนดการรณรงค์ในประเทศไทยระหว่างวันที่ 15- 30 มิถุนายน โดยจะเดินทางออกจากจ.สงขลาในวันที่ 16 มิถุนายน ไปยังจ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 22-23 มิถุนายน และสิ้นสุดการเดินทางที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 27-30 มิถุนายน ติดตามรายละเอียดการเดินทางได้ที่ http://www.greenpeace.org/seasia/th/about/ships/esperanza/ship-tour-2013
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ