‘เอกยุทธ’หายตัวลึกลับ ทนายคาดถูกอุ้มเมื่อ6มิย.

9 มิ.ย. 2556 | อ่านแล้ว 524 ครั้ง

วันที่ 9 มิถุนายน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความส่วนตัวของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง กล่าวถึงการแจ้งความหลังจากที่นายเอกยุทธตัวไปอย่างมีเงื่อนงำว่า ญาติของนายเอกยุทธและทนายความ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ซึ่งบ้านและที่ทำงานของนายเอกยุทธอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งได้เข้าร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามด้วย เนื่องจากเห็นว่ากองปราบปรามมีอำนาจที่จะดูแลได้ในหลาย ๆ พื้นที่ โดยการหายตัวไปของนายเอกยุทธ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ก่อนที่จะหายตัวไป นายเอกยุทธได้ไปที่ร้านอาหารย่านสะพานควาย เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งช่วงเวลาที่หายตัวไป น่าจะหลังเวลา 23.00 น. ของวันที่ 6 มิถุนายน

 

นายสุวัตรกล่าวว่า กระทั่งเช้าวันที่ 7 มิถุนายน นายเอกยุทธได้โทรศัพท์ติดต่อพี่สาว ให้นำเช็คเงินสดเพื่อจะเบิกจ่ายเงินจากธนาคาร 5 ล้านบาท โดยให้นำเช็คไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีคนขับรถของนายเอกยุทธนำเช็คเปล่าไปให้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อคนขับนำเช็คพร้อมลายเซ็นของนายเอกยุทธกลับมา ซึ่งได้มีการลง ปีพ.ศ.ผิดไปเป็นปี 2553 ก็ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ แต่เมื่อมีการโทรศัพท์ยืนยันกับทางธนาคาร ให้เบิกจ่าย ก็ได้มีการนำเงินสด 5 ล้านบาทไปที่สนามบิน โดยมีคนขับรถนำไป แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถติอต่อนายเอกยุทธ และคนขับรถได้

 

 

นายสุวัตรกล่าวว่า ส่วนสาเหตุของการหายตัวไปนั้น ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า เป็นผลมาจากคดีความที่นายเอกยุทธที่มีข้อพิพาทกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในคดีที่สืบเนื่องมาจากนายเอกยุทธ ถูกกล่าวหาทำร้ายพนักงานร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริต และประเด็นอื่นที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ แต่ทั้งนี้ญาติได้ตั้งข้อสังเกตว่า การหายตัวไปน่าจะมาจากประเด็นความขัดแย้งส่วนตัวที่มีอยู่ และประเด็นการตรวจสอบการทุจริต ในบริษัทของตนเอง

 

นายสุวัตรกล่าวด้วยว่า ในช่วงที่นายเอกยุทธได้ไปร้านอาหารสะพานควาย เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน นั้น จุดดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด และขณะนี้ยังไม่พบว่ามีผู้พบเห็นว่า นายเอกยุทธได้หายตัวไปจากจุดดังกล่าว เพียงแต่ขณะนี้มีข้อมูลว่า เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่บ้าน ซึ่งอยู่ใกล้กลับบริษัทของนายเอกยุทธ ย่านทาวน์อินทาวน์ถูกถอดออกไป ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเกิดจากบุคคลใกล้ชิด หรือจะมีการขู่บังคับ นำกุญแจจากนายเอกยุทธไป แล้วเข้าไปเพื่อทำลายเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว แต่เชื่อว่าผู้ที่ถอดออกไปน่าจะต้องเป็นคนมีความรู้ในเรื่องดังกล่าวอยู่บ้าง

 

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: