ทักษิณฮึ่มปลดสมศักดิ์พ้นปธ.สภา แฉ5ปมร้าวลึก-แก้ไขรัฐธรรมนูญ คาดดัน‘อภิวันท์’นั่งแทนสมัยหน้า

ทีมข่าวศูนย์ข่าว TCIJ 6 พ.ค. 2556 | อ่านแล้ว 2014 ครั้ง

 

สัญญาณการปลดประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฏร ส่งจากมหานครดูไบ มาถึงห้องประชุมพรรคเพื่อไทย มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง

 

ครั้งแรก ในวาระที่สภาผู้แทนราษฎร เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ที่มีการเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้าน อภิปรายโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

 

 

ครั้งที่สอง ในวาระการที่มีพิจารณาข้อเสนอกฏหมายปรองดอง ซึ่งเสนอโดย พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ร่วมกับส.ส.พรรคเพื่อไทย 35 คน เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2555 จนเกิดเหตุผลักประธาน “ขุนค้อน” ออกจากเก้าอี้ โดยส.ส.ฝ่ายค้านชุลมุนวุ่นวาย คราวนั้นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ถูกภาคทัณฑ์ไว้

 

และครั้งที่สาม เมื่อสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคเพื่อไทย 42 คน รวมตัวกับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ เสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง ฉบับที่...พ.ศ... แต่ประธาน “ขุนค้อน” มีทีท่าว่าแบ่งรับ-แบ่งสู้ ในการเลื่อนพิจารณาบรรจุระเบียบวาระ ขึ้นมาเป็นวาระแรก ในสมัยประชุมหน้า (เดือนสิงหาคม 2556) ทั้ง ๆ ที่มี “คำสั่ง” จากผู้มีบารมีนอกพรรค ตรงมาจากถิ่นพำนักในเขตปกครองพิเศษเกาะฮ่องกง ครั้งนี้มีข่าวขู่ว่า “จะให้โอกาสขุนค้อน ทำหน้าที่เป็นครั้งสุดท้าย”

 

ครั้งที่สี่ เมื่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ในนามของแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา ประกาศต่อหน้าส.ส.ในก๊วน โอกาสวันคล้ายวันเกิด เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2555 ที่ จ.เพชรบูรณ์ พาดพิงการตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องการลงมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 และบอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รอไปก่อน ไม่ต้องรีบกลับเมืองไทย และอ้างว่าปรึกษากับ นายสมชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แล้วจึงดำเนินการ

 

กระทั่งครั้งที่ห้า เมื่อนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สายสรรหา ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอใช้สิทธิ์ตามมาตรา 68 เพื่อให้ยับยั้งไม่ให้สภาผู้แทนดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เพราะเป็นการจำกัดสิทธิ์ของประชาชน ศาลจึงทำสำเนาให้ ส.ส.และส.ว.จำนวน 312 คน ในฐานะ “ผู้ถูกร้อง” รวมทั้ง ส.ส.เพื่อไทย ส่งคำชี้แจง แต่แกนนำพรรคและกลุ่มส.ส.สายตรงของพรรค เห็นว่าควรต่อต้าน และควรมีมติไม่ส่งคำชี้แจง เพื่ออาระขัดขืน

 

 

 

นอกจากนี้จะมีการทำจดหมายเปิดผนึกปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ มีเนื้อหา 12 หน้า สาระสำคัญคือการยืนยันว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องตามมาตรา 68 และไม่มีอำนาจแทรกแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอีกทางหนึ่งพรรคเพื่อไทยจะเดินสายจัดเวที “เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย” ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา เพื่อชี้แจงกับประชาชนทั่วทุกหัวเมืองด้วย

 

เริ่มจากวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ จ.อุบลราชธานี วันที่ 1 มิถุนายน ที่ จ.เชียงราย วันที่ 2 มิถุนายน จ.เชียงใหม่ วันที่ 8 มิถุนายน ที่ จ.พิษณุโลก วันที่ 9 มิถุนายน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และวันที่ 15 มิถุนายน ที่ จ.ระยอง และจะมีการเปิดเวทีในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย

 

การปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีคำชี้แจงของนายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่ระบุว่า “การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาอาจเข้าข่ายจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ผลของการกระทำดังกล่าวจะทำลายรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ยึดหลักการแบ่งแยกอำนาจเป็นสำคัญ”

 

เจตนารมณ์ 2 ข้อถูกบัญญัติขึ้นดังนี้ 1.ศาลรัฐธรรมนูญย่อมต้องผูกพันและปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ การรับคำร้องโดยที่ไม่มีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญให้อำนาจย่อมเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 97 และมาตรา 291 2.การที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องไว้พิจารณาตามมาตรา 68 ได้นั้นต้องเสนอเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

 

 

และมีเสียงจากแกนนำคนเสื้อแดงที่ระบุว่า เสียงของคนมีบารมีทางไกล ส่งสัญญาณ เปิดเกมรุกรบ กับ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการชุมนุมยืดเยื้อของกลุ่มวิทยุชุมชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ถ.แจ้งวัฒนะ นำโดย นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือ เล็ก บ้านดอน ประธาน กวป. นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป. แต่กลับมีท่าที่ “แทงกั๊ก” จากประธาน “ขุนค้อน” ที่ระบุว่า อาจมีการทำคำชี้แจงส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ในนามส่วนตัว พร้อมส.ส.พรรคอีก 20 คน

 

ทำให้มีข่าวลือหนาหูในพรรคเพื่อไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มีบารมีแห่งพรรคเพื่อไทย ถึงกับประกาศผ่านคนใกล้ชิด(อีกครั้ง) ว่า “จะปลดประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ”

 

ข่าวลือมีรายละเอียดด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางมาที่เขตปกครองพิเศษ เกาะฮ่องกงในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม และมีคิวให้ประธานขุนค้อน “นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” เดินทางไปพบในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เพื่อเจรจาให้ “นายสมศักดิ์..ลาออก” ด้วยเหตุผลที่พ.ต.ท.ทักษิณ สะสมไว้ 5 วาระดังกล่าวข้างต้น

 

ข่าวที่สะพัดในพรรคเพื่อไทย ไปไกลถึงขนาดชื่อของบุคคลที่จะถูกโหวตให้ขึ้นเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร คนต่อไป ในการเปิดประชุมสมัยหน้าคือ “พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย

 

 

ก่อนหน้านี้แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่เข้าร่วมหารือลับกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เขตปกครองพิเศษเกาะฮ่องกง เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา เคยอ้างถึงคำสั่งปลดข้ามฟ้า ของผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทยมาแล้ว แต่คราวนั้น ถูกทัดทาน ด้วยเหตุผล 2 ข้อ

 

ข้อแรก จะหาใครขึ้นมาแทน  ข้อสอง ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมและไม่ควรเปิดศึกหลายด้าน และการปิดสภา 3 เดือน ยังถือว่ารอได้อีกระยะ

 

การเงื้อง่าราคาแพง สำหรับการปลดประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ จากผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย เงื้อมาแล้ว 5 ครั้ง ต้องจับตาว่าทีเด็ดทีขาด ครั้งล่าสุดกรณีไม่ยอมเปิดศึกกับศาลรัฐธรรมนูญ จะกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้ประธาน “ขุนค้อน” ต้องมีอันพ้นจากเก้าอี้ ค้อนอาญาสิทธิ์ หลุดจากมือก่อนเวลาอันควรหรือไม่

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: