'ดีเอสไอ'บุกสอบ'สพฐ.' หาต้นตอโกงสอบครูผู้ช่วย

ทีมข่าวศูนย์ข่าว TCIJ 6 มี.ค. 2556 | อ่านแล้ว 1438 ครั้ง

 

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ประมาณ 10 คน เข้าขอข้อมูลและสอบปากคำเจ้าหน้าที่ สพฐ.ที่รับผิดชอบการจัดสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว 12 โดยมีนายสุเทพ ชิตยวงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และเจ้าหน้าที่ สพฐ. 5 คน เข้าให้ปากคำ พร้อมนำเอกสารต่าง ๆ มาชี้แจง โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

 

นายธานินทร์เปิดเผยว่า ดีเอสไอจะนำเอกสารต่าง ๆ ที่ได้ในวันนี้ไปตรวจสอบ ว่าเป็นเอกสารที่มีกระบวนการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะนี้ดีเอสไอมีประเด็นพิจารณามากขึ้น เช่น กระบวนการสอบ การส่งข้อสอบ การทุจริตการสอบ ซึ่งต้องดูเอกสารว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือไม่ ทั้งนี้จากข้อ
มูลของ สพฐ.ที่แจ้งมาพบว่า ผู้สอบบางคนมีคะแนนสูงผิดปกติ จึงสามารถชี้จุดได้ว่า ลักษณะของการทุจริตเป็นอย่างไร และกลุ่มที่เข้าข่ายทุจริตเป็นกลุ่มไหนบ้าง โดยข้อมูล สพฐ.ระบุว่าคะแนนเฉลี่ยของผู้เข้าสอบคราวนี้อยู่ที่ประมาณร้อยละ 80 และมีผู้ผ่านการคัดเลือกที่คะแนนสูงผิดปกติตั้งแต่ร้อยละ 90-100 ประมาณ 400 คน

 

 

        “พนักงานสอบสวนจะประเมินว่า คะแนนส่วนไหนที่มีปัญหา ซึ่งอาจจะต้องคัดกรอง และเชิญผู้เข้าสอบที่มีคะแนนสูงผิดปกติมาสอบปากคำ ว่าคะแนนที่ได้มานั้นทำได้จริงไหม โดยจะต้องชี้เป็นรายคนว่า เข้าข่ายในลักษณะการใช้เครื่องมือ หรือพกโพยคำตอบเข้าไปหรือไม่ อย่างไรก็ตามผู้สอบบางคนที่มีคะแนนสูงผิดปกติ อาจเป็นคนเก่งและสอบได้จริง การตัดสินทั้งหมดจึงต้องขึ้นกับพยานหลักฐาน ส่วนกระดาษคำตอบที่ รมว.ศึกษาธิการ อายัดไว้นั้น ดีเอสไอจะทำหนังสือขอขออนุญาต นำกระดาษคำตอบมาเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานที่ได้ด้วย ทั้งนี้ผู้ที่ถูกเชิญมาสอบปากคำยังไม่ได้เป็นผู้ที่ทุจริต แต่เป็นผู้ที่มีข้อมูลที่สามารถสาวไปถึงตัวการได้ โดยวันที่ 18 มี.ค.ดีเอสไอจะสรุปผลเบื้องต้นว่า กลุ่มที่กระทำความผิดมีใครบ้าง และต้องดำเนินการต่อไปอย่างไร” นายธานินทร์กล่าว

 

 

ผอ.ศูนย์ป้องกันฯ กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนมีหลักฐานเบื้องต้น ที่ได้จากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ชุดที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ แต่งตั้ง และยังมีพยานหลักฐาน เครื่องมือสื่อสาร โพยคำตอบต่าง ๆ ที่นำเข้าห้องสอบ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบว่า มีการใช้เครื่องมือสื่อสาร ตลอดจนโพยคำตอบตรงกับคำตอบที่ถูกต้องจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามดีเอสไอจะดำเนินการในสองประเด็น คือ 1.ต้องชี้ว่ากรณีดังกล่าวมีการทุจริตจริงหรือไม่ เพื่อให้ศธ.พิจารณาว่า ควรยกเลิกผลสอบบางจุด หรือยกเลิกทั้งหมด โดยจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 18 มี.ค. 2.ผู้กระทำผิดทำเป็นกระบวนการ และมีใครบ้าง รวมถึงเมื่อได้หลักฐานพอสมควรแล้ว จะนำเสนอคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อบรรจุให้กรณีทุจริตนี้เป็นคดีพิเศษ เพื่อมีอำนาจสอบสวนอย่างเต็มที่ สามารถนำผู้กระทำผิดมาลงโทษทางกฎหมายได้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้สามารถสรุปได้เลยหรือไม่ว่า ข้อสอบครูผู้ช่วยรั่วในชั้นไหน นายธานินทร์กล่าวว่า คงตอบยาก เพราะทุก ๆ จุดมีช่องโหว่หมด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบริษัทที่ทำข้อสอบ หน่วยงานที่ส่งข้อสอบ คณะกรรมการรับข้อสอบ คณะกรรมการเปิดข้อสอบ ฉะนั้นพนักงานสอบสวนต้องแยกเป็นประเด็นและต้องดูว่าตรงไหนมีจุดโหว่มากที่สุด

 

ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าสอบปากคำเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่เกี่ยวข้องกับการสอบบรรจุครูผู้ช่วยในครั้งนี้ ซึ่งตนยินดีอำนวยความสะดวกทุกประการ กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมกันนี้ยังจัดเตรียมเอกสารทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตามที่ดีเอสไอได้ร้องมาทั้งหมด 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ขอทราบหลักเกณฑ์วิธีการสอบครูผู้ช่วย 2.จำนวนเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) พร้อมรายชื่อที่จัดสอบ  3.จำนวนผู้เข้าสอบ ผลการสอบ และรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก และ 4.วิธีการจัดส่งข้อสอบ การเก็บรักษาข้อสอบ และการประกาศผลผู้ผ่านการคัดเลือก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ แจ้งว่าจะมาตรวจสอบจนกว่าจะได้ข้อมูลที่น่าพอใจ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: