จี้รมว.พลังงานรับผิดชอบไฟดับ โพลชี้เสียความเชื่อมั่น-ศก.เละ ชาวบ้านผวาหวั่นก่อวินาศกรรม

25 พ.ค. 2556 | อ่านแล้ว 513 ครั้ง

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม น.ส.ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลการสำรวจ หัวข้อ “ความเชื่อมั่นของประชาชนจากกรณีปัญหาไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้” จากตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัดของประเทศได้แก่ กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม สมุทรปราการ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงราย มุกดาหาร หนองคาย สกลนคร เลย ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ยะลา นราธิวาส และ สงขลา จำนวนทั้งสิ้น 2,075 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 22-24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน โดยมีช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 พบว่า

 

 

 

ผลการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างเกือบ 2 ใน 3 หรือร้อยละ 60.5 รู้สึกกลัว ตกใจ กังวล ต่อปัญหา อาชญากรรม การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย และความไม่ปลอดภัยอื่น ๆ จากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ 14 จังหวัดภาคใต้ที่ผ่านมา ในขณะที่ร้อยละ 31.6 รู้สึกเฉย ๆ และร้อยละ 7.9 ไม่รู้สึกอะไรเลย

 

เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าจะสามารถปรับปรุงระบบไฟฟ้า เพื่อการรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 79.3 มีความเชื่อมั่น ขณะที่ร้อยละ 20.7 ไม่มีความเชื่อมั่น

 

ที่น่าสนใจคือประชาชนร้อยละ 55.7 ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ควรเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ไฟดับใน 14 จังหวัดภาคใต้ที่ผ่านมา ขณะที่ร้อยละ 35.1 ระบุว่า รัฐบาลทั้งคณะควรรับผิดชอบ ร้อยละ 7.0 ระบุหน่วยงานราชการ และร้อยละ 2.2 ระบุควรรับผิดชอบตัวเอง

 

นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 51.4 ยังระบุว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ควรเป็นผู้รับผิดชอบต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าของประชาชนที่เสียหายเพราะไฟฟ้าดับบ่อยอีกด้วย ส่วนร้อยละ 36.8 ระบุว่า รัฐบาลทั้งคณะควรรับผิดชอบ ร้อยละ 10.8 ระบุหน่วยงานราชการ และร้อยละ 1.0 ระบุตัวเองควรรับผิดชอบ

 

 

ที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนร้อยละ 82.5 คิดว่าเหตุการณ์ไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้ที่ผ่านมา ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ขณะที่ร้อยละ 17.5 คิดว่าไม่ส่งผล

 

น.ส.ปุณฑรีก์กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้ที่ผ่านมา ถึงแม้จะเกิดขึ้นเพียงภาคเดียวของประเทศ แต่สร้างความเสียหายไม่น้อย และไม่เพียงแค่ส่งผลต่อตัวปัจเจกบุคคล การดำรงชีวิตของประชาชน อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุดเสียหาย แต่ยังส่งผลเป็นวงกว้างต่อการค้าขาย การประกอบธุรกิจ อาทิเช่น ร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจการท่องเที่ยว การบริการ อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือผลกระทบระยะยาวที่อาจลดทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในภาคใต้ของไทย ซึ่งถือเป็นภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการเพื่อนำความเชื่อมั่นของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกลับคืนมา อีกทั้งในการเตรียมความพร้อมเรื่องพลังงานให้ทันต่อการเปิดประชาคมอาเซียนที่จะมาถึงในเวลาอันใกล้นี้

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: