เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ต.ต.สันตศิริ เมตตาวงศ์ สารวัตรเวรสภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนใกล้เคียงสี่แยกไทยแอร์โร่ หมู่ 11 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก หลังจากรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลหัวรอและพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพโดยบ้านเกิดเหตุเป็นเป็นไม้ชั้นเดียวไม้ยกพื้นสูง เลขที่ 334 หมู่11 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลกเพลิงลุกโหมจนทั่วทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบในกองเพลิงพบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 รายสภาพศพนอนกอดกันเนื้อตัวไหม้เกรียมน่าเวทนายิ่งนัก ทราบชื่อผู้เสียชีวิตรายแรกคือ ด.ช.สัณพิชญ์ พลนอก อายุ 13 ปี สภาพสวมกาเกงบล็อกเซอร์เพียงตัวเดียวและอีกรายคือ ด.ญ.ณัฐปภา พลนอก อายุ 9 ปี สภาพไหม้เกรียม นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย ทราบชื่อคือ นางชุติกาญจน์ พลนอก อายุ 39 ปี มารดาของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ได้รับบาดเจ็บแขนทั้งสองข้าง จากเปลวเพลิงเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลในเบื้องต้น

จากการสอบสวนนางชุติกาญจน์ มารดาของผู้เสียชีวิตทั้งสองคนให้การว่า ด.ช.สัณห์พิชญ์ บุตรชายกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนพุทธชินราช ส่วน ด.ญ.ณัฐปภา เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดน้อย เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ขณะที่ตนอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพิษณุโลก มาตัดหม้อแปลงไฟของตนเอง เนื่องจากตนลืมจ่ายค่าไฟฟ้าที่ค้างไว้ 441 บาท ขณะที่ตนก็อยู่ในบ้านพักก็ตัดหม้อแปลงไฟโดยไม่แจ้งให้ทราบ เมื่อไฟดับจึงทราบว่า ถูกตัดไฟแต่ตนก็ไม่มีเวลาและเงินที่จะไปจ่ายค่าไฟ จนกระทั่งช่วงเย็นลูกทั้งสองกลับมาจากโรงเรียน ก็อยู่บ้านพักตามปกติ จนกระทั่งช่วงเย็นตนต้องไปทำงานที่ร้านหมูกระทะที่อยู่หน้าปากซอย ปล่อยให้ลูกทั้งสองอยู่บ้านพักตามลำพัง โดยเด็กทั้งสองต้องจุดเทียนเพื่อส่องสว่างในการทำการบ้าน ก่อนที่ตนเองจะซื้อเทียนไขกลับมาให้ลูกทั้งสองคนตอนเวลา 21.30 น.และกลับไปทำงานต่อ จนมีเพื่อนบ้านวิ่งไปตามว่างบ้านพักถูกไฟไหม้ ตนได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือลูกทั้งสองคนแต่เปลวเพลิงได้โหมรุนแรง จนไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ ทำให้ลูกทั้งสองคนเสียชีวิตในกองเพลิง

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า เด็กทั้งสองคนน่าจะจุดเทียนไขในห้องนอนและเผลอหลับไปเทียนอาจจะล้มไปทับกับมุ้งหรือที่ก่อนทำให้ไฟลุกลามบ้านทั่วทั้งหลังเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป