พนง.7สวนสัตว์ฮือประท้วง ปลดผอ.องค์การสวนสัตว์

3 ต.ค. 2556 | อ่านแล้ว 2663 ครั้ง

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พนักงานองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จากสวนสัตว์ 7 แห่งทั่วประเทศ อุบลราชธานี ขอนแก่น นครราชสีมา เชียงใหม่ ชลบุรี สงขลา และสวนดุสิต กว่า 300 คน นำโดย น.สพ.ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ สัตวแพทย์ทีมผสมเทียมหลินปิง หมีแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นแกนนำ เพื่อเรียกร้องให้คณะกรรมการบริหารองค์การสวนสัตว์ (บอร์ด) มีคำสั่งให้นายสัญชัย จุลมนต์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ คนปัจจุบัน หยุดปฏิบัติหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง และให้แต่งตั้งผู้รักษาการแทน พร้อมขอให้ตรวจสอบคุณสมบัตินายสัญชัย ว่าขาดคุณสมบัติของหลักเกณฑ์การสรรหา ผอ. สวนสัตว์หรือไม่ โดยถือเป็นการประท้วงให้สั่งปลด ผอ.องค์การสวนสัตว์ครั้งแรกในรอบ 75 ปีของการก่อตั้งองค์การสวนสัตว์

น.สพ.บริพัตรกล่าวว่า นายสัญชัยได้รับการแต่งตั้งเป็นผอ.สวนสัตว์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2555 หรือกว่า 14 เดือน โดยขาดคุณสมบัติ แต่ถูกสรรหาเข้ามาจากทางการเมือง เนื่องจากพบว่า การแต่งตั้งมีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ที่สำคัญคือ ต้องเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือพนักงานระดับรัฐวิสาหกิจ หรือเคยปฏิบัติงานในภาคเอกชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท และต้องดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่าระดับพนักงานบริหาร หรือเทียบเท่า แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีการแก้หลักเกณฑ์สำคัญดังกล่าวเช่น เคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหาร เป็นต้น ซึ่งพบว่า นายสัญชัย เป็นเพียงผู้บริหารระดับหัวหน้าแผนกในกลุ่มบังคับคดี ในธนาคารแห่งหนึ่ง และหลังจากนั้นเป็นทนายอิสระ และเข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้กับนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ดังนั้นในภาพรวมจึงถือว่าขาดคุณสมบัติของผู้บริหารที่กำหนดไว้ แต่กลับมีการเปลี่ยนเงื่อนไข เพื่อเอื้อให้นายสัญชัยเข้ามารับตำแหน่งได้ ทำให้นายสัญชัยไม่มีความรู้ความสามารถในเรื่องการบริหารธุรกิจ และไม่มีวิสัยทัศน์ที่จะทำให้สวนสัตว์ของไทย เป็นผู้นำด้านมาตรฐานสวนสัตว์ของอาเซียน ตามนโยบายของคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ฯ ขณะเดียวกันเป็นผู้บริหารที่ไม่สนใจในเรื่องของการพัฒนาบุคลากรขององค์กร ทั้ง ๆ ที่ควรสนใจเรื่องภารกิจหลักขององค์กร การศึกษาวิจัยสัตว์ป่าหายาก แต่กลับไปสนใจเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อนำมาไว้ภายใต้อำนาจของตน ซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่ากับเงินเดือน 200,000 บาท ที่นายสัญชัย ได้รับ

            “การทำงาน 14 เดือนของนายสัญชัย ส่งผลกระทบหลายส่วน โดยเฉพาะความล่าช้าในการใช้งบประมาณ ซึ่งการอนุมัติงบของสวนสัตว์ต่างจังหวัด ก็ต้องมาเซ็นอนุมัติที่ส่วนกลาง และสำคัญที่สุดคือ การเสียโอกาสในการผสมเทียมหลินฮุ่ย ในปี 2555 เนื่องจากไม่ได้รับอนุมัติจากนายสัญชัย และแม้การผสมเทียมหลินฮุ่ยครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 28-29 กันยายน นี้ ก็เกือบพลาดโอกาส จนกระทั่งทีมวิจัยต้องขอให้สถานทูตจีนออกหนังสือรับรองว่า ทีมวิจัยไทยสามารถดำเนินการผสมเทียมหลินฮุ่ยได้ โดยไม่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญจากจีน อย่างไรก็ตาม เราคาดหวังว่าบอร์ดจะพิจารณาข้อเรียกร้องของพนักงานและมีคำสั่งปลดนายสัญชัย แต่หากยังไม่ฟังเสียงพนักงานทั้ง 1,000 ราย จะรวมล่ารายชื่อ และเตรียมเคลื่อนไหวและยกระดับการชุมนุมเรียกร้องในโอกาสต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการมาเรียกร้องชุมนุมครั้งนี้ไม่มีใครมาหนุนหลัง แต่เป็นผลจากการบริหารงานที่ขาดวิสัยทัศน์ของนายสัญชัยเอง” น.สพ.บริพัตร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแต่งดำชุมนุมประท้วงปลดนายสัญชัย ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 75 ปีของการก่อตั้งองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีกลุ่มพนักงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์กว่า 30 คน และพนักงานระดับปฏิบัติ เดินขบวนพร้อมกับถือป้ายที่มีข้อความต่าง ๆ พร้อมทั้งนำป้ายผ้าสีขาวขนาดใหญ่มาติดที่ประตูสวนสัตว์ดุสิต ฝั่งตรงข้ามรัฐสภา ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และคณะครูและนักเรียนที่พาเด็ก ๆ มาเที่ยวแต่ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบหรือตื่นตกใจ

ด้านนายสัญชัยให้สัมภาษณ์ว่า การเข้ามาทำงานที่องค์การสวนสัตว์ฯ ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาอย่างถูกต้อง ซึ่งมีคนมาสมัครจำนวน 3 คน แต่ตนได้รับการคัดเลือก ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มาจากการสนับสนุนจากสายการเมืองแต่อย่างใด ทั้งนี้ยอมรับว่าถึงจะไม่มีประสบการณ์ทำงานด้านสัตว์ป่า แต่มีประสบการณ์ทำงานบริหาร ซึ่งบทพิสูจน์คือ การทำของของตนส่งผลให้องค์การสวนสัตว์มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซนต์ มากกว่าผอ.องค์การสวนสัตว์ฯ คนก่อน และยังทำให้สวนสัตว์ได้รับรางวัลเหรียญบรอนซ์ จากงานวิจัยสิ่งประดิษฐ์คิดค้น หรือนวัตกรรม นานาชาติ ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

            “การที่มีคนเพียงกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาคัดค้านครั้งนี้ เกิดจากการเสียประโยชน์ในบางเรื่องที่ผมเข้าไปเหยียบตาปลาของเขา บางคนทำสัตว์ตายแต่จะมาปกปิดข้อมูลเพราะมีการสนับสนุนจากคนบางคน เรื่องนี้ผมพร้อมชี้แจง” นายสัญชัย กล่าว

เมื่อถามว่าจะตัดสินใจลาออกหรือไม่ เนื่องจากพนักงานให้เวลาบอร์ดองค์การสวนสัตว์เพียง 24 ชั่วโมง นายสัญชัยกล่าวว่า จะไม่ลุกจากตำแหน่งเพราะถือว่าได้รับการแต่งตั้งมาอย่างชอบธรรม แต่จะไม่ยอมให้ถูกข้อเรียกร้องที่ไม่เป็นธรรมมากดดัน อีกทั้งหากจะลาออกจริงๆ เกิดจากเงื่อนไขความสมัครใจของตัวเองเท่านั้น คือ ท้อถอยต่อการทำหน้าที่ อย่างไรก็ตามพร้อมเข้าชี้แจงกับผู้ใหญ่ของกระทรวง และบอร์ดบริหาร เพราะถือว่าตนไม่ได้ทำอะไรที่เสียหายต่อองค์กรนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา พนักงานองค์การสวนสัตว์เคยยื่นหนังสือต่อนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ รวมทั้งสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวกับคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ แต่ไม่ได้รับคำตอบหรือคำอธิบายใด ๆ จึงรวมตัวประท้วงในครั้งนี้โดยมีการนำเอกสารแถลงการณ์ปัญหาการบริหารของนายสัญชัย มาเผยแพร่ ได้แก่ 1.การเลื่อนระดับพนักงานล่าช้าใช้เวลา 6 เดือน หลังจากสิ้นปีงบประมาณ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน 2.บรรจุพนักงานไม่ตรงตามตำแหน่ง อาศัยอำนาจบรรจุพนักงานตามความใกล้ชิด 3.ไม่สนับสนุนภารกิจหลักขององค์การสวนสัตว์ คือ การศึกษาและวิจัยสัตว์ป่าหายาก กลับมองแต่เรื่องอำนาจของการจัดซื้อจัดจ้างของทุกสวนสัตว์ กลับคืนมาอยู่ในอำนาจของตัวเอง ไม่มีการกระจายอำนาจตามหลักการปกครอง ทำให้การบริหารจัดการสวนสัตว์ทั่วประเทศไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้การจัดซื้อจัดจ้างล่าช้าไม่สามารถใช้งบประมาณได้ตามแผนงบประมาณ

4.ยกเลิกการจัดฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับภารกิจองค์การสวนสัตว์ แต่กลับเร่งรัดให้จัดอบรมพริตตี้ โดยคัดเลือกพนักงาน ลูกจ้างผู้หญิงเข้าฝึกอบรมโดยไม่อิงเนื้องานตามสายงาน 5.ผลงานที่ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์นำเสนอกับ คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์เพื่อประเมินผลงานนั้น ก็เป็นการสั่งพนักงานองค์การสวนสัตว์จัดทำขึ้น ให้สอดคล้องกับแผนงานขององค์การสวนสัตว์ที่กำหนดไว้แล้ว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานประจำที่พนักงานต้องทำเป็นปกติ ไม่มีผลงานอันเกิดจากวิสัยทัศน์ของผู้นำให้เป็นที่ประจักษ์

ต่อมาวันที่ 3 ตุลาคม ด้าน นายดำรงค์ พิเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ถึงกรณีที่พนักงานองค์การสวนสัตว์ขับไล่นายสัญชัย และตั้งข้อสังเกตว่า นายสัญชัยเป็นคนสนิทของตนเอง ว่า ตนไม่รู้จักนายสัญชัย เท่าที่นายสัญชัยเข้ามาก็พยายามกำจัดปัญหาทุจริต แต่ปัญหาเกิดจากการซอยงบประมาณการวิจัยที่นายสัญชัยไม่ยอม นอกจากนี้ยังตั้งกรรมการสอบสวนการซื้อสัตว์เข้ามาแล้วตาย รวมถึงการโยกย้ายคน

อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่านายสัญชัย เคยเป็นที่ปรึกษาของนายดำรงค์ สมัยเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ นายดำรงค์กล่าวว่า ไม่มั่นใจ เพราะที่ปรึกษามีเยอะ เขาพยายามโยงตน เบรกตน เพื่อไม่ต้องการให้ตนมาเป็นผู้ช่วยรมต.เท่านั้นเอง

น.สพ.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ กล่าวกรณีที่นายดำรงค์ระบุถึงกรณีซอยงบประมาณการวิจัยว่า ไม่มีน้ำหนัก เราทำงานกับทุกส่วนมีการจัดซื้อจัดจ้างปกติ ไม่มีอะไรผิดไปจากที่ผ่านมาเลย ที่เราไม่พอใจคือ การจัดซื้อจัดจ้างเราไม่ได้รับการอนุมัติเลย ทำให้งานล่าช้า เขาบอกว่า อย่าทำงานระหว่างสวนสัตว์ อย่าฝึกอบรม ซึ่งทำให้งานไม่มีประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องการสอบสวนการซื้อสัตว์แล้วตายนั้นตนไม่ทราบ และเรื่องการสั่งย้ายคนนั้น แม้จะไม่พอใจแต่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ต้องมาชุมนุม

น.สพ.บริพัตรกล่าวต่อว่า ที่นายสัญชัย ไม่ควรดำรงตำแหน่งต่อ คือ เราไม่เคยทราบว่านายสัญชัย มีเอกสารเข้ามาขอสมัครงานอย่างไร คุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็น ผอ.องค์การสวนสัตว์ ต้องเทียบเท่าอธิบดี แต่เราเพิ่งรู้ว่าเขาเคยเป็นแค่หัวหน้าแผนกมีลูกน้องไม่เกิน 10 คน อย่างนี้ผ่านการสรรหามาได้อย่างไร นี่จึงสะท้อนว่าทำไมถึงบริหารคนและงบประมาณล้มเหลว

            “แม้จะไม่สนับสนุนให้มีการฝึกอบรม แต่มีการอบรมพัฒนาบุคลิกภาพสองครั้ง เมื่อมีคนไปมาก็รับไม่ได้ เท่าที่ทราบคือมีคนมาชี้ตัวคนหน้าตาดีจากแผนกต่าง ๆ ไปฝึกอบรม ให้แต่งหน้าทำผม จ๊ะจ๋า เอาใจนาย"

 

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ คมชัดลึก

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: