ศธ.ส่งหลักฐานดีเอสไอ เอาผิดโกงสอบครูผู้ช่วย

1 มี.ค. 2556 | อ่านแล้ว 1163 ครั้ง

 

จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว 12 จำนวน 2,000 อัตรา เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา แต่กลับมีเหตุไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะกรณีรายชื่อผู้สอบเดียวกันสอบติดสองแห่ง ซึ่งกรณีนี้ปรากฎอยู่ในหลายเขตพื้นที่การศึกษา ดังนั้นนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ จึงลงนามตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการ กระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานฯ ตรวจสอบ

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเข้ายื่นข้อมูลหลักฐานการตรวจสอบทุจริตสอบบรรจุข้าราชการครู กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้ดีเอสไอสืบสวนหาผู้กระทำผิดว่า ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้รายงานผลการตรวจสอบดังกล่าว โดยพบความไม่ชอบมาพากลใน 3 เรื่อง ได้แก่ การนำข้อสอบและคำเฉลยออกมาจำหน่ายล่วงหน้า การใช้เครื่องมือสื่อสารทุจริตในขณะสอบ และการให้บุคคลอื่นเข้ามาสอบแทนในสถานที่จัดสอบ 2-3 แห่ง ซึ่งการทุจริตดังกล่าวมีลักษณะเป็นขบวนการ คล้ายการทุจริตสอบบรรจุข้าราชการตำรวจ ซึ่งเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ที่ข้าราชการ ศธ.จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการทุจริตครั้งนี้ด้วย จึงมอบข้อมูลให้ดีเอสไอได้ขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดต่อไป

 

 

              “อาจพิจารณายกเลิกการจัดสอบที่ผ่านมา และให้จัดสอบใหม่ ถึงแม้ผู้สอบผ่านบางรายได้รับเรียกบรรจุแล้วก็ตาม โดยเบื้องต้นจะนำผลการสอบของดีเอสไอมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้จากข้อมูลที่ตรวจสอบโดยกระทรวงและข้อมูลที่ได้รับจากการร้องเรียน พบว่ามีการเรียกเก็บเงินผู้เข้าสอบรวม 500,000 บาทต่อราย มีการติวเตอร์ด้วยการนำกระดาษคำตอบมาเฉลยให้ทราบล่วงหน้าก่อนสอบ 1 วัน มีการส่งสัญญาณมือถือระบบสั่น อย่างสั่น 1 ครั้งตอบข้อ ก. สั่น 2 ครั้งตอบข้อ 2 โดยทั้งหมดนี้เป็นขบวนการโกงสอบ อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีผู้สอบที่ได้รับเรียกบรรจุอาจฟ้องร้องได้ภายหลังเพราะถูกถอดถอนนั้น เรื่องนี้คงต้องไปดูกัน แต่สำหรับผมที่ได้รับข้อมูลว่ามีการโกงกันเกือบทุกเขต จะไม่ยอมปล่อยการสอบดังกล่าวแน่”นายเสริมศักดิ์กล่าว

 

 

นายธาริตกล่าวว่า การทุจริตสอบครูเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาล เบื้องต้นจึงได้รับเรื่องไว้และมอบหมายให้ นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญโดยตรง ให้ดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะรายงานผลให้นายเสริมศักดิ์ทราบภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาต่อไป

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: