เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ประชุมหารือร่วมกับพล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และผู้แทนจากหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงจุดยืนของประเทศไทยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาโรฮิงญา ที่ลักลอบอพยพเข้าประเทศไทย ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ว่า ที่ประชุมได้สรุปจำนวนชาวโรฮิงญา ที่ลักลอบหนีเข้าประเทศทั้งหมด 1,390 คน เป็นชาย 1,184 คน หญิง 206 คน เพราะต้องสรุปในการของบประมาณ ที่จะนำมาใช้ในการดูแลเป็นเวลา 6 เดือน โดยกำหนดค่าอาหารคนละ 75 บาท/วัน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณทั้งหมดสิ้น 12 ล้านบาท โดยสมช.จะเร่งสรุปตัวเลข เพื่อเสนอขอเบิกจ่ายงบกลาง

ขณะเดียวกันที่ประชุมจะหารือกับทางองค์การการเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน (IOM), สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาติ (UNHCR) , ยูนิเซฟ และสภากาชาด ว่าจะให้การสนับสนุนในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นอกจากนี้จะหาทางเจรจากับประเทศที่สาม ที่ชาวโรฮิงญามีเป้าหมายจะเดินทางไปยังประเทศนั้น

นายสุรพงษ์กล่าวว่า ตนจะพยายามหารือกับประเทศพม่า ซึ่งชาวโรฮิงญาหลบออกมา เพื่อให้ทราบข้อเท็จในเรื่องที่ชาวโรฮิงญาหนีเข้ามายังประเทศไทย ส่วนตนจะหาโอกาสหารือร่วมกับรมว.ต่างประเทศ ของประเทศพม่า และในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ตนจะนำคณะทูตลงไปจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะใช้โอกาสนี้หารือถึงปัญหาโรฮิงญาด้วย

ส่วนการตั้งศูนย์อพยพขึ้นมาเพื่อรองรับชาวโรฮิงญา นายสุรพงษ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากตั้งศูนย์อพยพ มีค่าใช้จ่ายสูงมาก และที่สำคัญประเทศไทยเรามีศูนย์อพยพมากถึง 9 แห่งแล้ว และมีผู้อพยพมากกว่า 100,000 คน ที่ยังต้องดูแล