ศธ.ร่างกฎกระทรวงใหม่ คุมทรงผมนร.ให้ทันสมัย

ทีมข่าวศูนย์ข่าว TCIJ 11 ม.ค. 2556 | อ่านแล้ว 2787 ครั้ง

 

วันที่ 11 มกราคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีเตรียมแจ้งหนังสือเวียนไปยังสถานศึกษา ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงเรื่องทรงผมนักเรียน ฉบับที่ 2 ปี 2518 เพื่อยกเลิกการบังคับให้นักเรียนชายไว้ผมเกรียน และให้นักเรียนหญิงเลือกไว้ผมยาว-สั้นได้ จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการเปิดเสรีให้นักเรียนไว้ผมตามแฟชั่นมากเกินไป ว่า ที่ผ่านมาโรงเรียนเข้าใจเรื่องทรงผมตามกฏกระทรวง ปี 2518 ไม่ถูกต้อง และเข้าใจสับสนว่าตีนผมคือตรงไหน ดังนั้นเมื่อมีโอกาสจึงได้สอบถามความหมายของตีนผมกับราชบัณฑิตยสถาน เพราะในพจนานุกรมไม่ได้เขียนไว้ชัดเจน ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือ ผมด้านหลังประมาณต้นคอ หรือทรงผมรองทรงนั่นเอง เพราะมีความยาวไม่เกินตีนผม ส่วนนักเรียนหญิง เพื่อไม่ให้เป็นการลักลั่น ก็ให้เลือกไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้แต่ต้องรวบผมให้เรียบร้อย

 

 

 

             “ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาออกกฎกระทรวงใหม่ โดยอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ เพื่อมอบให้คณะทำงานที่ปรับปรุงกฎกระทรวงนำไปเป็นข้อมูลทบทวน เพื่อออกเป็นกฎกระทรวงฉบับใหม่ เพราะแฟชั่นทรงผมในปัจจุบันแตกต่างจากปี 2518 มาก ฉะนั้นกฎกระทรวงจึงต้องครอบคลุมการย้อมสีผมหรือการดัดผมด้วย" รองนายกฯกล่าว

 

 

 

ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเด็กมาร้องเรียนเรื่องทรงผมแล้วประสบความสำเร็จ ต่อจากนี้คงร้องเรียนเรื่องการใส่ชุดนักเรียนอีก นายพงศ์เทพกล่าวว่า ทุกสิ่งต้องขึ้นอยู่กับเหตุและผล ไม่ใช่จะต้องทำตามทุกอย่าง แต่จะพิจารณาจาก สิทธิ เสรีภาพ และเหตุผล ประกอบกัน หากกำหนดแบบไม่มีเหตุผล แล้วเด็กไทยจะมีจิตสำนึกประชาธิปไตยได้อย่างไร เหมือนอย่างการสั่งเด็กตัดผมเกรียน ถามว่าทำไมต้องสั้นเกรียนมีเหตุผลอธิบายได้หรือไม่ ถ้าไม่มีเหตุผลแล้วจะไปบังคับเด็กได้อย่างไร

 

 

               “เวลานี้เรายึดใช้กฎกระทรวงปี 2518 แต่เราไม่ได้ปฏิบัติตาม ผมก็ต้องการแก้ไขให้เราปฏิบัติตามกฎกระทรวงเท่านั้น เรื่องอื่น ๆ เช่น หนวดเครา ก็ไม่ได้ไปแตะหรือไปยุ่งอะไร จะมีก็แค่เพิ่มข้อกำหนดต่าง ๆ ที่สมัยก่อนไม่มีแต่สมัยนี้มี เช่น การทำสีผม ดัดผม เป็นต้นเท่านั้น” นายพงศ์เทพกล่าว
 ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เป็นเรื่องดีที่กระทรวงศึกษาธิการ ให้อิสระภาพในการไว้ผมนักเรียนมากขึ้น แต่โรงเรียนจะต้องมีแนวปฎิบัติต่าง ๆ ควบคุมดูแลไม่ให้การไว้ทรงผมนักเรียนเป็นแฟชั่นมาก เกินขอบเขตความเหมาะสมของความเป็นนักเรียนด้วย

 

ส่วนนักเรียนก็ต้องให้ความเคารพต่อสถานที่เช่นกัน ทั้งนี้เชื่อว่าประเด็นเหล่านี้ทางโรงเรียนจะต้องกำกับดูแลอยู่แล้ว เพราะบางครั้งการที่นักเรียนต้องตัดผมเกรียน ก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดเหมือนถูกกดดัน แต่ในส่วนของนักศึกษาวิชาทหาร ที่เรียนหลักสูตรวิชาทหารรักษาดินแดน ก็ยังคงต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ระเบียบ

 

นายประกาศิต ยังคง อดีต ผอ.ร.ร.สตรีสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า การจะเปลี่ยนแปลงอะไรต้องไม่เปลี่ยนทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่จะต้องค่อย ๆ เป็นค่อยไป ๆ เพราะส่วนตัวคิดว่าคนไทยรักความเป็นอิสระ ไม่เหมือนกับชาวต่างประเทศที่มีวินัยสูง ฉะนั้นการให้อิสระแก่เด็กไว้ผมสั้นผมยาวได้ จะต้องกำหนดให้ชัดเจนและไม่ควรให้อิสระทั้งหมด เพราะตอนนี้มีเด็กบางส่วนอยากได้อิสระเสรีในเรื่องของทรงผม ซึ่งเมื่อดูแล้วคนไทยยังไม่มีความพร้อมมากขนาดนั้น อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นด้วยกับการให้นักเรียนชายไว้รองทรงสูง และนักเรียนหญิงไว้ผมยาวได้แต่ต้องรวบผมให้เรียบร้อย

 

ด้าน นางจำนงค์ แจ่มจันทรวงษ์ ผอ.ร.ร.สตรีวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อมูลข่าวสาร ตามที่กระทรวงมีนโยบายออกมา ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร เพราะกระทรวงระบุว่าอยู่ในระหว่างการออกกฎกระทรวงใหม่ ฉะนั้นการดำเนินการใด ๆ จึงต้องรอความชัดเจนและหนังสือจากกระทรวงก่อน จากนั้นโรงเรียนจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานของโรงเรียนต่อไป ทั้งนี้ระเบียบทรงผมของโรงเรียนขณะนี้ไม่อนุญาตให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายไว้ผมยาว แต่อนุญาตให้ไว้ได้ตามความจำเป็นเท่านั้น

 

 

ขอบคุณภาพจาก www.tskw.ac.th

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: