'สุพจน์ โตวิจักษ์ชัยกุล'ตอบคำถาม  งบน้ำท่วมสามแสนล้านอยู่ไหน

ชุลีพร บุตรโคตร ศูนย์ข่าว TCIJ 22 ก.ย. 2555


เพราะปัญหาน้ำท่วม ยังคงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนไทยในขณะนี้ ข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการรับข้อมูลมาก ๆ อาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ โดยเฉพาะขณะนี้มีการพูดถึงเรื่องงบประมาณด้านการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล และ คำถามต่อความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำที่ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ นายสุพจน์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ให้สัมภาษณ์ศูนย์ข่าว TCIJ ในประเด็นที่ยังคงสับสนกันอยู่

 

 

ถาม : การที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการใช้เงินงบประมาณในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะเรื่องงบ 3.5 แสนล้านบาท ขณะนี้นั้น แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร

 

 

สุพจน์ : ตอนนี้งบประมาณที่ใช้ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ยังไม่เกี่ยวกับเงินงบประมาณ สามแสนล้านบาทเลย ซึ่งงบจำนวนนี้เราจะมีการแบ่งใช้ตามแผนของ กยน. ซึ่งมีแผนทั้งหมดหมดแล้ว โดยจะมีการแบ่งเงินงบประมาณออกเป็น 2 กลุ่ม คือเงินที่จะนำมาใช้กลุ่มแผนบริหารจัดการลุ่มน้ำเจ้าพระยา 8 ลุ่มน้ำ จำนวนประมาณ 300,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 40,000 กว่าล้านบาท จะเป็นเงินงบประมาณที่นำไปใช้กับลุ่มน้ำที่เหลืออีก 17 ลุ่มน้ำ นอกจากนี้ก็จะเป็นเงินที่ใช้ในงบฯ ฟื้นฟูพัฒนาประเทศ ดังนั้นจริงๆ แล้วงบประมาณที่จะใช้ในการบริหารจัดการน้ำระยะยาว จะมีอยู่ประมาณ 344,000 ล้านบาท ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับงบประมาณที่ใช้ในการจัดการน้ำตอนนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ถาม : แสดงว่าคนกำลังเข้าใจผิด และวิพากษ์วิจารณ์ผิด

 

 

สุพจน์ : ตอนนี้เราไม่ได้เอาเงินก้อนนี้มาใช้ เพราะถ้าเอามาใช้ก็จะไม่มีเงินที่จะไปทำงานระยะยาว ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการหาผู้ที่จะเข้ามาทำ โดยเป็นการเปิดโอกาสให้แต่ละชาติที่สนใจได้เสนอเทคโนโลยีของตัวเองเข้ามา เพราะแต่ละชาติจะมีความรู้ความสามารถที่แตกต่างกัน มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงให้ทุกชาติได้มีโอกาสเสนอแนวคิดเข้ามา ภายในวงเงิน 3 แสนล้านกับการทำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 8 ลุ่มน้ำว่าเขาจะคิดอย่างไร ประเทศไหนจะเสนอย่างไร จะปลูกป่าไหม จะทำฟลัดเวย์ หรือจะสร้างเขื่อน ก็ให้เสนอทางวิชาการมาแข่งขัน ซึ่งจะต้องเสนอที่ละโมดุล ใครพร้อมก็เสนอมาให้ครบ 8 แผนงาน แต่ถ้าบางประเทศคิดว่าไม่พร้อมก็อาจจะเสนอแผนมาแผนเดียวก็ได้ เช่นเห็นว่าจะเสนอเรื่องของฟลัดเวย์ ก็ทำมาอย่างเดียว เสร็จแล้วเราจะมาดูเรื่องคุณสมบัติ ซึ่งเรากำหนดไว้ว่า คุณสมบัติของบริษัทจะต้องมี 10 เปอร์เซนต์ ของวงเงิน เช่น ฟลัดเวย์มีวงเงิน 1.2 แสนล้านบาท 10 เปอร์เซนต์ ของ 1.2 แสนล้านบาท บริษัทต้องมีวงเงินย้อนหลังสิบปีที่ 1.2 หมื่นล้านแบบนี้เป็นต้น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือก

 

จากนั้นตามขั้นตอนถ้าผ่านแล้วเราจะให้เวลาอีก 2 เดือน ภายใน 23 พ.ย.จะต้องส่งรายงานว่า เขาคิดมาอย่างไร มาคัดเลือกเพื่อให้เหลือ 1-3 กลุ่มละ 3 ราย ตอนนี้เรามี 10 แผนงานที่มีเงินอยู่แล้ว ก็จะได้ 30 ราย มาแข่งขัน เพื่อทำแบบอีกครั้ง เพื่อจะส่งตอนเดือนมีนาคม ปีหน้า จากนั้น คณะกรรมการชุดสุดท้ายจะคัดเลือกอีกทีหนึ่ง เพื่อคัดเฉพาะที่ 1 แล้วจะเรียกที่ 1 มาต่อรองราคากัน นั่นคือขั้นตอนกระบวนการทั้งหมด แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้ใช้เงินก้อนนี้เลย ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับเงิน

 

 

ถาม : แล้วตอนนี้รัฐบาลใช้งบประมาณอะไรในการดูแลเรื่องน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด

 

 

สุพจน์ : ตอนนี้ใช้งบฯกลาง 1.2 แสนล้านบาท แต่งบฯ ก้อนนี้ก็ไม่ใช่งบฯ ที่ใช้ในการป้องกันน้ำท่วมอย่างเดียว แต่จะรวมเป็นงบฯ ฟื้นฟู เยียวยา ปรับปรุงอินฟราสตรักเจอร์ทั้งหมดหลาย และรวมถึงเงินชดเชย 2 หมื่นล้าน ที่จ่ายครอบครัวละ 5,000 บาท ด้วย นอกจากนี้ก็เป็นงบฯ จังหวัด งบกลางฉุกเฉิน ของสำนักนายฯ เข้าไปช่วย เพราะถ้าเอาเงินสามแสนล้านนี้ไปใช้เราก็ไม่มีเงิน เพราะเงินก้อนใหญ่นี้จะจบเดือนเมษายน

 

 

ถาม  :  นั่นหมายถึงว่าเราต้องทนกันไปก่อนในช่วงนี้

 

 

สุพจน์ : ไม่ใช่ทน เพราะเงิน 300,000 ล้านบาท เป็นแผนระยะยาว 5 ปีถ้าทำแล้ว น้ำจะไม่ท่วมอีก แต่ต้องเข้าใจว่าน้ำที่ท่วมอยู่ตอนนี้เป็นน้ำท่วมขัง ไม่ใช่น้ำล้นตลิ่ง ปีที่แล้วน้ำเยอะกว่าปีนี้หลายเท่าตัว อย่างเราดูตัวเลขที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็น จังหวัดที่ใช้ดูได้ว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ หรือเปล่า ตอนปีที่แล้ว น้ำที่นครสวรรค์ มี 3,800 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปีนี้มีแค่ 1,700 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 48 เปอร์เซนต์ ของลำน้ำ น้ำต่ำกว่าตลิ่งเยอะ แต่จะมีบางส่วนที่ตลิ่งต่ำ เช่น บางระกำ ก็อาจจะมีท่วมบ้าง แต่หากเปรียบเทียบแล้ว ระดับน้ำปีนี้กับปีที่แล้ว ต่างกันโดยสิ้นเชิง  

 

ส่วนกรณีที่มีฝนตกเป็นหย่อมๆ อย่างที่สระแก้ว หรือ กรุงเทพฯ เมื่อมีฝนตกลงมามากน้ำจะท่วมขัง อันนี้จะขึ้นอยู่กับระบบระบายน้ำว่ามีประสิทธิภาพอย่างไร ไม่เกี่ยวกับน้ำล้นตลิ่ง เช่น กรณีน้ำท่วมที่กรุงเทพฯ ตอนฝนตกหนัก เมื่อตกมาก็ต้องเร่งระบายออก แต่ถามว่าตอนนี้เรามีระบบระบายน้ำได้ดีหรือไม่ และกทม.ก็บอกว่าเขาได้ลอกท่อระบายน้ำ ดูระบบระบายน้ำแล้ว แต่จะไปว่า กทม.อย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะถ้า กทม.ลอกท่อแล้ว ทำระบบระบายน้ำแล้ว แต่หมู่บ้านจัดสรร ไม่ยอมที่จุดขุดลอกท่อต่างๆ น้ำก็จะท่วมในหมู่บ้าน เพราะน้ำจะไปออกไปได้อย่างไร หรือถ้าเป็นข้างนอก ก็ต้องไปดูว่าท่อระบายน้ำ อาจจะมีช่วงโค้งมีสวะ มีอะไรไปติดหรือเปล่า จะต้องไปสำรวจตรงนี้ เพราะกทม.เองก็บอกว่า ถ้าฝนตกน้อย เขาสามารถที่จะระบายออกได้ภายใน 2 ชั่วโมง แต่ ถ้าฝนตกมามาก ก็ต้องใช้เวลาระบาย แต่พอเห็นน้ำท่วมคนก็ตกใจ ถ้าเป็นน้ำขังจากฝนตกที่ต่างจังหวัด ก็จะเป็นพื้นที่รับผิดชอบของอบต. อบจ.ไป

 

ตอนนี้ต้องระบายน้ำในทุ่งลงแม่น้ำให้เร็วที่สุด เป็นหน้าที่ของแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีการแบ่งระดับไว้แล้ว ถ้าเป็นต่างจังหวัดก็ต้องเป็นหน้าที่ของท้องถิ่น เป็นระดับที่หนึ่ง ถ้าหนักขึ้นอีกก็ต้องขึ้นมาที่ระดับสองเป็นของจังหวัด ระดับสามขึ้นมาเป็นระดับหลายๆ จังหวัด ก็เป็นมหาดไทยเป็นคนดูแล แต่ถ้าหนักมาก ๆ ไปแล้วต้องถึงระดับนายกฯ

 

 

ถาม : แล้วข้อมูลเหล่าเรื่องของน้ำ ประชาชนจะได้ข้อมูลจากไหน

 

 

สุพจน์ : แนะนำให้เข้าไปดูที่ www.waterforthai.go.th อย่างเดียงเลย หรือในแอบพลิเคชั่นก็มี ซึ่งในนั้นจะมีข้อมูลทั้งหมด ว่าฝนตกที่ไหนบ้าง ตรงไหน มีรายงานแบบเรียลไทม์ รายละเอียดบอกชัดว่า ตอนนี้ฝนตกตอนนี้แล้วกำลังจะเคลื่อนไหที่ไหน จะบอกทั้งหมด และปีนี้น้ำที่ท่วมเป็นน้ำที่เกิดจากน้ำฝน น้ำจึงจะไม่ท่วมอย่างแน่นอน ตอนนี้ฝนมาเดือนกันยายนฝนก็จะหมดแล้ว น้ำไม่ท่วมอยู่แล้ว ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ก็น้อยมาก ไม่เหมือนปีอื่น เพราะเราบริหารดี น้ำมีที่เก็บ ตามที่เราไปบรรยายตามที่ต่างๆ ซึ่งข้อมูลจะบอกทั้งหมด เห็นได้เลยว่า จุดไหนเป็นอย่างไร ภาพให้เห็นชัด อย่างที่พิษณุโลกที่นายกฯ ไปดูตอนนี้น้ำต่ำกว่าตลิ่งตั้ง 7 เมตร หรือที่แม่น้ำปิง ที่กำแพงเพชร รับน้ำได้ 4,000 แต่น้ำมา 500 จบเลย ปีนี้ยังไงน้ำก็ไม่ท่วม ดูได้ไล่มาจากเจ้าพระยา โผงเผง บางบาล น้ำยังควบคุมได้อยู่ ชลประทานคุมได้หมด

 

 

ถาม : ยืนยันว่าปีนี้น้ำไม่ท่วมอย่างแน่นอน

 

 

สุพจน์ : ใช่  ไม่เหมือนปีที่แล้วอย่างแน่นอน เพราะปีที่แล้วต่างจากปีนี้ ปีที่แล้วเป็นน้ำล้นตลิ่ง ล้นจากแม่น้ำเข้าท่วมทุ่ง ท่วมชุมชน เพราะน้ำมามากเหลือเกิน เขื่อนทุกเขื่อนน้ำเต็มทั้งหมด แก้มลิงก็ไม่มี เมื่อล้นตลิ่งมาแล้วก็แก้ยากมาก แต่ปีนี้เป็นน้ำฝนที่ตกลงมา เมื่อตกลงมาแล้วก็จะไหลลงสู่แม่น้ำ เพราะน้ำยังเหลืออยู่ ต่ำกว่าตลิ่งมาก แต่ถ้าตกลงมามากน้ำก็จะท่วมขังแน่นอน แต่อยู่กับว่าเราจะระบายได้เร็วมากน้อยแค่ไหน แต่พอน้ำขังเราก็ต้องเห็น พอไปถ่ายรูป ซ้ำๆ ย้ำๆ กัน มันก็ทำให้เกิดความตกใจ แต่ถ้ารอสักพักน้ำจะระบายออกไปได้เอง

 

ตอนนี้ที่ค่อนข้างช้าเป็นปัญหาอยู่ที่ปั๊ม เพราะน้ำไม่มีที่ไป แล้วก็เรื่องท่อ ต้องขุดลอก ให้ไหลได้ดีขึ้น ตอนนี้เราขุดลอกไม่ได้100 เปอร์เซนต์ ท่อมีปัญหาอยู่แต่ถ้าเป็นแก้ปัญหาท่อได้ก็จะทำให้น้ำลื่นไหลไปได้ ซึ่งตอนนี้ในส่วนของน้ำที่ท่วมกรุงเทพ กทม.เป็นคนรับผิดชอบ ตอนนี้ กทม.ก็บอกว่าถ้าฝนตกมาแล้วต้องระบายเขารับได้ แต่ถ้าเหมือนปีที่แล้วเขารับไม่ได้

 

ถาม : ให้คะแนนการทำงานของทีมงานด้านน้ำของรัฐบาลเท่าไหร่

 

สุพจน์ : ตอนนี้ผมให้เกิน 90 เปอร์เซนต์ เพราะเราทำได้ดีมาก น้ำไม่ท่วมแน่นอนและนับเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรก ที่ไม่เคยมีการทำมาก่อน และระยะยาวเราจะไม่เจอน้ำท่วม เพราะทุกอย่างทำอย่างมีระบบ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: