‘ก็ดี’ คือสิ่งที่เขานึก คงเหมือนกับที่นักเขียนสารคดีท่องเที่ยวชอบพูดกันนั่นแหละ อย่างน้อยการหนีออกจาเมืองบ้างก็ช่วยให้เขาหายใจได้ลึกและช้าขึ้น
บ่ายแก่ๆ รถวิ่งมาไกลประมาณ 200 กิโลเมตร ถึงเขาตะเกียบ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สถานตากอากาศที่มีอายุอานามกว่า 100 ปี พูดไปหัวหินถือว่าเป็นหนี้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ พระองค์ทรงชอบมาตากอากาศที่นี่ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หัวหินมีชื่อเสียง เรื่อยมาถึงสมัยรัชกาลที่ 7 ชายหาดหัวหินถือเป็นแหล่งรวมแฟชั่นชุดเดินชายหาดแห่งยุคเลยก็ว่าได้ ...แต่ที่เขาตะเกียบนี่ค่อนข้างสงบเงียบกว่าและเขาก็ชอบที่นี่
เขานั่งเฝ้าคอยการกลับจากทะเลของใครบางคน ระหว่างรอ เพลงคลื่นของที่นี่ทำให้เขาตั้งคำถามเล่นๆ ขึ้นว่า ครูไสล ไกเลิศ เคยถูกสาวหัวหินหักอกหรือไร? ถึงต้องมาสิ้นมนต์รักกันถึงที่นี่
บ่ายแก่มากขึ้น ดวงอาทิตย์กำลังจะลอยหายไปอย่างเงียบเชียบ นั่นแปลว่าอีกไม่นาน ลุงซานติเอโกคงกลับเข้าฝั่ง พร้อมกับปลาที่จับได้ เขาหวังว่าคงไม่ถูกฉลามร้ายแย่งชิงไปก่อน (แต่เขาไม่เคยได้ยินว่าหัวหินมีฉลามเที่ยวไล่งับใคร)
เขายังจำชัยชนะบนรอยยิ้มของลุงซานติเอโกได้ดี ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การล่องเรือจับปลาจนแก่ชรา ทิ้งเพียงริ้วรอยและความทระนงในความเป็นมนุษย์เป็นเหรียญตราให้ตัวเอง แต่ต้องอยู่คนเดียวกับเนื้อที่กว้างขวางของทะเล มันไม่กลมกล่อมเลยสักนิด
หัวหินวันนี้เหมือนจะลุกลี้ลุกลนเติบโตจากการท่องเที่ยว ขณะที่เขาตะเกียบที่เขานั่งอยู่นี้ ยังคงรักษาท่วงทำนองเงียบสงบได้พอสมควร มันจึงไม่ก่อการร้ายกับชีวิตของลุงซานติเอโกมากเกินไป
บนสนามหญ้าสีเขียวปะพรมจุดขาวของดอกลั่นทมที่พลัดหล่มจากต้น ลุงซานติเอโกและเขานั่งเหม่อมองทะเล-ท้องฟ้าสีเทาโศกใต้ต้นสนละเมอลม นักท่องเที่ยวกำลังเพลิดเพลินกับน้ำทะเล บานาน่าโบ๊ต และการขี่ม้า ที่สุดหาดด้านขวามือ ภูเขาเล็กๆ ที่ชื่อเขาตะเกียบนิ่งสนิทอยู่ที่นั่น ว่ากันว่าเขาตะเกียบเป็นจุดชมวิวหาดหัวหินที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง และยังเป็นแหล่งขายปูม้าสดๆ ที่ขึ้นชื่อของหัวหินอีกด้วย
ครั้งหนึ่งลุงซานติเอโกเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อต้นสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวบ้านเมืองเพชรบุรีจำนวนหนึ่งหนีความแร้นแค้นลงใต้มาตั้งหลักปักฐานที่เขาตะเกียบแห่งนี้ กระทั่งวันหนึ่งมีชาวบ้านจากภูเก็ตบ้าง พัทลุงบ้าง ตรังบ้าง อพยพขึ้นมาอยู่ในแถบนี้ด้วย ชุมชนก็เลยขยายใหญ่โตเรื่อยมา จนเป็นหัวหินอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ลุงซานติเอโกก็คือลูกหลานของคนเหล่านั้น
แล้วจู่ๆ บทเพลง ‘หัวหินสิ้นมนต์รัก’ ก็แว่วขึ้นมาจากน้ำเสียงของเฒ่าทะเลผู้ไม่ยอมถูกทำลาย เหมือนกับจะรู้ว่าเมื่อสักครู่เขากำลังนึกถึงเพลงนี้
“หัวหินเป็นถิ่นสัญญา จากไป กลับมาผิดหวัง ฮึม...ความหลังยังเวียนวน คลื่นสวาทมันแรง มันแกล้งมาดล ร้อนจนใจสั่น เคยชื่นชู้สู่สวรรค์ รักกันมั่นใจฉันยังปลื้ม มันซ่าน มันซึม มันปลื้มไม่นาน วิมานทลาย...”
เขาไม่เคยนึกเลยว่าลุงซานติเอโกจะร้องเพลงได้เพราะแบบนี้ มันสวยงามไม่ผิดกับป่าลอธอริเอน แต่ก็เศร้าสร้อยพอๆ กับความตายที่ทุ่งเพเลนอร์ในมหาสงครามแห่งแหวน
มิน่าล่ะ เฒ่าทะเลผู้นี้จึงยอมอยู่คนเดียว โดยไม่คิดจะแบ่งปันชีวิตกับใคร
ทะเลโน้มน้าวคนให้แต่งบทเพลงขึ้นมากมาย ทั้งเศร้า-เหงา-รัก ทะเลจึงไม่เคยขาดแคลนเสียงเพลง พอๆ กับที่บทเพลงไม่เคยห่างหายเสียงคลื่น
นักร้องวง ‘เป็นไปไม่ได้’ บอกเสมอว่า ทะเลไม่เคยหลับ แต่ทะเลหัวหินสำหรับลุงซานติเอโกตื่น ด้วยความหลังอันแหว่งวิ่น บางครั้งเขาอยากให้ความรักของลุงซานติเอโกสมหวัง เหมือนหนุ่มท่าฉลอมกับสาวมหาชัยคู่นั้น สงสัยว่าเมื่อก่อนบ้านลุงซานติเอโกกับสาวเจ้าคงอยู่ใกล้กันเกินไป เลยไม่มีโอกาสแบกความรักข้ามทะเลพิสูจน์ใจกันสักเท่าไร
แต่ถ้าลุงซานติเอโกสมหวังในรัก เขาอาจไม่ได้รับรู้เรื่องราวประทับใจของมนุษย์ ผู้ยอมถูกทำลาย แต่ไม่ยอมพ่ายแพ้
“หัวหินเป็นถิ่นสัญญา ขาดเธอ กลับพลันเงียบเหงา ฮึม...มองแสงดาวเรียงราย...” เขาเจอะเจอบ่อยครั้งกับการแย่งชิงความหมายของการเดินทางและสิ่งที่ได้จากการเดินทาง บ้างบอกว่าอยู่ที่จุดหมายของการเดินทาง บ้างบอกว่าอยู่ตรงระหว่างทาง บ้างบอกว่าอยู่ที่ผู้คน ฯลฯ
“คลื่นยังคร่ำ ยังครวญ จันทร์แจ่มยังนวล เย้ายวนไม่วาย เคยชื่นชู้อยู่แลหาย เห็นรอยทรายใจฉันหวิวหวั่น...” เขาเชื่อว่าความสวยงามของการเดินทางอยู่ที่สายตา หู และเท้าของแต่ละคน อย่างเช่นตอนนี้ เขาไม่ได้ตื่นเต้นกับทะเลสักน้อย แต่หัวหินสวย เพราะเสียงเพลงที่เวียนวน
“เคยนั่งชมคลื่น เคยชื่นใจกัน ฉันยังไม่ลืม” การนั่งนิ่งๆ มองทะเล และฟังเพลงหัวหินๆ ไม่สนจุดหมาย ไม่สนข้างทาง ไม่สนผู้คน อาจดูเป็นการเดินทางที่ง่วงเหงาหาวนอนบ้าง แต่ก็สุขสงบดี
...แค่นี้พอแล้ว
เขาและลุงซานติเอโกแยกย้ายไปหาที่นอน หมอน มุ้งของตัวเอง ชีวิตของลุงซานติเอโกขับเคลื่อนด้วยแรงเหวี่ยงอันเป็นส่วนผสมของชะตามกรรม ความหลัง ความรัก และหัวหิน อาจปวดร้าวบ้าง
...แต่เพลงก็เพราะดี
(เป็นงานเขียนที่เขียนขึ้นเมื่อนานมาแล้วตั้งแต่ปี 2548 ในนิตยสาร a day weekly ถึงตอนนี้หัวหินคงเปลี่ยนไปมาก แต่กำลังจะต้องกลับไปหัวหินเร็วๆ นี้ด้วยแรงเหวี่ยงของหน้าที่การงาน จึงขอนำมาลงอีกสักที---ลุงซานติเอโก คือตัวละครในวรรณกรรมโนเบลขึ้นหิ้ง ‘เฒ่าทะเล’ หรือ ‘The Old Man And The Sea’ ของยักษ์ใหญ่นามเออร์เนสต์ เฮ็มมิ่งเวย์)
ภาพจาก travel.kapook.com/view673.html
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ