แนะรัฐฟังข้อเสนอปชช. รุกแก้ปัญหาชายแดนใต้

ฮัสซันโตะดง โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ (DSJ) 15 พ.ย. 2555 | อ่านแล้ว 1639 ครั้ง

 

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2555 ที่โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท อ.เมือง จ.ปัตตานี สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล จัดเสวนาแลกเปลี่ยนปัญหาและทางออกระหว่างนักการเมืองชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 9 เพื่อเดินหน้าสู่สันติสุขที่มั่นคง มีนักการเมืองจากพรรคการเมืองต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมประมาณ 15 คน

 

นายเด่น โต๊ะมีนา อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคมาตุภูมิ นายนิมุคตาร์ วาบาอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทย และ นายดาโต๊ะสุทธิพันธ์ ศรีริกานนท์ อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนผู้ร่วมเสวนา แถลงข่าวสรุปการสานเสวนา

 

นายเด่นแถลงสรุปผลการแลกเปลี่ยนว่า ที่ผ่านมาองค์กรภาคประชาสังคม นักวิชาการ นักการเมือง ได้ศึกษาและเสนอแนะทางออกแก่รัฐบาลในหลาย ๆ เรื่อง เช่น กฎหมายความมั่นคง กระบวนการยุติธรรม และด้านการบริหารจัดการหลายประการ ซึ่งที่ประชุมเสนอว่า ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญ และนำข้อเสนอแนะเหล่านั้นมาพิจารณาด้วย ไม่น้อยไปกว่าข้อเสนอแนะจากฝ่ายความมั่นคง

 

นอกจากนี้ในเวทีเสวนายังมีข้อเสนอถึงแนวทางการใช้กฎหมายพิเศษว่า ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนพึงมีสิทธิและมีโอกาสตรวจสอบ และประเมินผลงานของภาครัฐให้มากขึ้น เช่น ประเมินความเหมาะสมของการจัดทำงบประมาณ ประเมินความรัดกุมและประสิทธิผลการใช้งบประมาณ ประเมินนโยบายที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประชาชน เป็นต้น

 

ในส่วนของการนำเสนอในประเด็นทั่วไป ที่ประชุมมีความกังวลว่า ปัจจุบันมีการลอบทำร้ายซึ่งกันและกันระหว่างคนต่างชาติพันธุ์ โดยไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นปัญหาการก่อความไม่สงบโดยตรง เพราะผู้ตกเป็นเหยื่อคือชาวบ้านธรรมดา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงมีข้อสันนิษฐานไปต่าง ๆ นานา เช่น เป็นการไล่บุคคลต่างชาติพันธุ์ออกจากพื้นที่ มีกระบวนการติดอาวุธที่มิใช่ฝ่ายขบวนการ หรือเป็นการแก้แค้นกันไปมา ที่ประชุมจึงขอเสนอให้รัฐบาลให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ และให้ความคุ้มครองอย่างเต็มที่ยิ่งขึ้น  เพื่อลดบรรยากาศความหวาดระแวงและฟื้นฟูการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

 

 

ในประเด็นการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน กฏอัยการศึก และพ.ร.บ.ความมั่นคงภายในในบางพื้นที่ ทำให้เกิดผลกระทบแก่คนในพื้นที่อย่างมาก เช่น มีข้อมูลให้เชื่อถือได้ว่าผู้ที่ถูกเชิญตัวไปและมีรายชื่ออยู่ในระบบสารสนเทศ อาจถูกตัดสิทธิ์ในการสมัครเข้ารับราชการ ไม่ได้รับความสะดวก ในการขอหนังสือเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์อย่างทันท่วงที และไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น

 

 

                    “เพื่อให้ไม่เกิดความรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม ฝ่ายรัฐควรทำความกระจ่างในเรื่องนี้ ว่ามิได้มีการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลที่ไม่ใช่ผู้ต้องข้อหาแต่อย่างใดโดยเฉพาะ ให้บุคคลเหล่านั้นได้รับใบรับรองจากฝ่ายความมั่นคง ให้ได้รับสิทธิการเยียวยา ตามกฎเกณฑ์ของศอ.บต.ด้วย” นายเด่นกล่าว

 

 

สำหรับข้อเสนอให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษตามนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยนั้น ที่ประชุมขอให้รัฐบาลดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้ในขณะที่ยังไม่มีการออกกฎหมายมารองรับ แต่รัฐบาลสามารถดำเนินการโดยใช้อำนาจฝ่ายบริหารได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ดำเนินการให้เหมือนกันเสมอไปทั้งประเทศ เพราะเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหา โดยการโอนอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น อำนาจด้านนโยบายและบุคลากรด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านคดีครอบครัวและมรดก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ศาสนา ประวัติศาสตร์และภาษา

 

นายเด่นกล่าวต่อว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ฝ่ายรัฐบางฝ่ายมักอ้างว่า ถ้าไม่ประกาศใช้กฎหมายพิเศษทั้ง 3 ฉบับ ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบ แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าการรับผิดชอบของตนนั้นมีส่วนช่วยลดความรุนแรงได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องมีสิทธิ ในการตรวจสอบและประเมินผลงานของภาครัฐ

 

                     “ข้อเสนอเวทีของ 8 เวทีผ่านมา ยังไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล ดังนั้นที่ประชุมมติว่าในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 14 มกราคม 2556 ที่จ.ยะลา จะต้องมีการเชิญตัวแทนจาก ศอ.บต.และตัวแทนจากหน่วยงานความมั่นคงเข้ามาประชุมด้วย เพื่อให้หน่วยงานดังกล่าวรับทราบข้อเสนอและคิดอย่างไรต่อข้อเสนอเหล่านี้”   นายเด่นกล่าว

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: