จรัลชี้ม็อบสีตัวการทำลาย การต่อสู้ของภาคประชาชน

สื่อสร้างสุขอุบลราชธานี 17 ธ.ค. 2555 | อ่านแล้ว 690 ครั้ง

 

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2555 เครือข่ายสถาบันวิชาการ องค์กรอิสระ องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคประชาสังคม และ องค์กรภาคประชาชนกว่า 40 องค์กร รวมตัวสะท้อนปัญหาถอดบทเรียน 23 ปีแห่งการต่อสู้ และรำลึกการจากไป 5 ปี “วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ นักสู้เพื่อคนจน” ที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทยบ้านปากมูน อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี  มีการจัดเวทีการแสดงดนตรีสากล และพื้นบ้าน เวทีวิชาการ และเวทีเสวนา “ก้าวที่ผ่านมาและก้าวต่อไปของขบวนการภาคประชาชน” โดยมีนักวิชาการสิทธิมนุษยชน และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งคณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตและชุมชนลุ่มน้ำมูล สะท้อนปัญหาการดำรงชีวิตของคนลุ่มน้ำที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐที่ผ่านมา

 

การเสวนาได้มีการหยิบยกแนวคิดของคุณวนิดา ตันติิวิทยาพิทักษ์ นักต่อสู้เพื่อคนยากคนจน เช่น ไม่มีความทุกข์ยาก ถ้ามีความยุติธรรม ปัญหาความยากจนไม่ใช่เรื่องเวรกรรมแต่เป็นเรื่องของความยุติธรรม แทรกอยู่ตลอดการเสวนา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ต้องเดินทางไปเปิดโรงเรียนนปช.ที่สกลนคร แต่ตนเลือกที่จะมาที่นี่ เพราะมด วนิดา เป็นเสมือนแม่พระที่เสียสละเพื่อพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ชีวิตตนผ่านการไว้อาลัยมานับไม่ถ้วน ตั้งแต่อยู่ป่า ตุลา พฤษภา แต่คนหนึ่งที่มีความทรงจำชัดเจนคือ มด วนิดา วันนี้ครบ 5 ปีการจากไปถือเป็นการรำลึก และปลุกความรู้สึกนึกคิดของพี่น้องคนยากคนจนในการก้าวเดินต่อไปไม่ย่อท้อ

 

นายจรัลยังกล่าวถึงการต่อสู้ของประชาชนทุกวันนี้ว่า ยากกว่าเดิม เพราะความมีสีเหลืองแดง ความมีสีได้บดบังการแก้ปัญหาของคนยากคนจน เมื่อมีการเคลื่อนไหวจะแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไม่รวมกันอย่างมีพลังเหมือนเดิม เป็นโจทย์ที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ด้านนายสุมิตรชัย หัตถสาร ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น จ.เชียงใหม่ ชี้ให้เห็นว่า ลัทธิทุนนิยมจะเน้นชูอุดมการณ์เอากรรมสิทธิปัจเจก ให้แต่ละคนรู้สึกว่าตนเองได้ประโยชน์  เมื่อทุกคนเห็นว่าตนได้ประโยชน์ ส่วนรวมก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ กรรมสิทธิชุมชนจึงถูกทำลายในที่สุด

 

ทางออกในการต่อสู้ของภาคประชาชนคือ เราจะทำให้คนจนมีอำนาจ ลดอำนาจคนรวย เพื่อประโยชน์จะเกิดกับทรัพยากรสาธารณะ

 

ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและการจัดการปกครอง จุฬาฯ ระบุว่า สิ่งที่น่ากังวลคือขบวนการภาคประชาชนแตกแยกกันมาก พลังอ่อนล้ากว่าเมื่อก่อน  สิ่งที่อยากเห็นคือการเมืองที่เห็นหัวคนจนอย่างจริงใจ ไม่ใช่เพียงใช้คนจนเป็นเครื่องมือ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: