เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดตัว “กองทุนตั้งตัวได้...สร้างนักธุรกิจ สร้างเศรษฐกิจชาติ” ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ตอนหนึ่งว่า วันนี้ยินดีและดีใจที่มาร่วมงานที่เป็นการเปิดตัวกองทุนตั้งตัวได้อย่างเป็นทางการ ขอเรียนว่ากองทุนนี้เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเมื่อกลางปีที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์และกระบวนการการมีส่วนร่วมกับสถาบันการศึกษาหลายครั้งจนมีการตั้งคณะกรรมการกองทุนฯขึ้นมาและมีการเปิดตัวเพื่อแสดงเจตนารมณ์กับสถาบันการเงินและสถาบันการศึกษา
กองทุนนี้มีความสำคัญที่จะเป็นพื้นฐานในการสร้างเงิน สร้างงาน สร้างอาชีพ สำหรับกลุ่มนักศึกษาที่รัฐบาลมองว่าเป็นกำลังสำคัญของชาติ ที่นอกจากรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกให้มีงานทำแล้ว เรายังมองเห็นโอกาสว่าผู้ที่มีความรู้ความสามารถความคิดสร้างสรรค์ ความพร้อมในการเป็นนักธุรกิจมืออาชีพ ดังนั้นกองทุนฯก็พร้อมสร้างและสนับสนุนให้กับนักศึกษาที่จบใหม่ที่พร้อมทำงาน เพื่อพัฒนาให้เติบโตและสร้างความเป็นเจ้าของอย่างมืออาชีพ และเสริมโอกาสในการเคลื่อนย้ายความเจริญทางเศรษฐกิจในเอเชียโดยธุรกิจ SME ที่จะช่วยผลักดันความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะนอกจากการสร้างรายได้ในครัวเรือนแล้วยังเป็นการสร้างเอสเอ็มอีให้เจริญเติบโต สร้างเอสเอ็มอีรุ่นใหมให้ผสมผสานความเป็นเจ้าของกับความเป็นมืออาชีพ
“แม้เรียนจบแล้ว 5 ปีก็สามารถกลับมาขอกู้และสถาบันการศึกษาก็จะยืนยันให้ ทั้งนี้ในการเป็นเจ้าของกิจการ การจะตั้งเนื้อตั้งตัวนั้นยากเพียงไร แม้มีความรู้แต่ขาดโอกาสก็เป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงจะมีคณะกรรมการ 3 ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คือ มหาวิทยาลัย ศิษย์เก่า และสถาบันการเงิน 5 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลาม ธนาคารธกส. และธนาคาร SME ที่จะร่วมในการเป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาให้กับน้อง ๆ ที่จบใหม่เพื่อไม่ให้เกิดหนี้สูญ” นายกฯกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการกองทุนตั้งตัวได้นั้นเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ดำเนินการเพื่อสนับสนุนการสร้างผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อให้นักศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษาหรือบัณฑิตใหม่สามารถกู้ยืมเงินวงเงินคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับธุรกิจ) เพื่อการสร้างอาชีพ เป็นเจ้าของกิจการแต่ขาดทุนทรัพย์หรือหลักทรัพย์ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2556 จำนวน 5,000 ล้านบาท
โดยคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์รับสิทธิ์ในกองทุน 1.เป็นบุคคลสัญชาติไทย 2.เป็นนักเรียนระดับ อาชีวศึกษา หรือนิสิต นักศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษา หรือเป็นบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาแล้วไม่เกิน 5 ปี 3.มีความริเริ่มต้องการเป็นผู้ประกอบการและได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวให้เป็นผู้ประกอบการ และ 4.ธุรกิจของผู้ประกอบการต้องมีโอกาสที่จะสำเร็จพอสมควร ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ที่ หน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (UBI) ทั่วประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โทร 02-610-5335 , 02-610-5444
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ