นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศกว่า 14,000 โรง ซึ่งมีนักเรียนทั้งโรงเรียนไม่ถึง 120 คน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า นอกจากแนวทางการเคลื่อนย้ายนักเรียนมาเรียนรวมกันในโรงเรียนระดับตำบล เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักเรียน และแก้ไขปัญหาครูผู้สอนไม่ครบชั้น ให้สามารถสอนครบชั้นได้ ซึ่งเป็นมาตรการทางกายภาพที่ สพฐ.พยายามส่งเสริมให้กับโรงเรียนขนาดเล็กแล้ว ด้านวิชาการก็ถือเป็นเรื่องที่ สพฐ.ให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะโรงเรียนขนาดเล็กมีปัญหาทั้งด้านคุณภาพและประสิทธิภาพ

ดังนั้นสพฐ.จะปรับกลยุทธโดยส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนแบบคละชั้น หรือแบบเรียนรวม โดยเฉพาะในช่วงชั้นที่ 1 ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3 และช่วงชั้นที่ 2 ระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 ให้คล้ายกับการเรียนการสอนในโรงเรียนขนาดเล็ก ของประเทศนิวซีแลนด์ ประกอบด้วย Waingaro School Kharoa School และ Waitomo Caves School ที่สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ.ได้เดินทางไปดูงานในช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า การเรียนการสอนในโรงเรียนขนาดเล็กทั้ง 3 แห่ง ของประเทศนิวซีแลนด์ จะเน้นเครื่องมือการเรียนรู้สำหรับช่วงชั้นต้น ๆ พร้อมทั้งเน้นการเรียนการสอนแบบบูรณาการหลายกลุ่มสาระเข้าด้วยกัน ดังนั้นผลสัมฤทธิ์ที่ได้คือ สามารถลดเวลาเรียนของนักเรียนให้น้อยลง ส่งผลให้นักเรียนสามารถทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น สพฐ.จะยึดรูปแบบนี้มาเป็นแนวทางในการดำเนินการกับโรงเรียนขนาดเล็ก ส่วนจะลดเวลาเรียนกี่ชั่วโมงต่อวันนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดเวลาที่ตายตัวได้ แต่จากการศึกษาดูงานโรงเรียนขนาดเล็กในหลาย ๆ ประเทศพบว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะเน้นทักษะการเรียนรู้ในภาคเช้า ส่วนภาคบ่ายจะเรียนปฏิบัติ โดย สพฐ.จะปรึกษากับนายภาวิช ทองโรจน์ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ในรายละเอียดเพื่อให้ได้ความชัดเจนในการจัดการเรียนการสอนสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กต่อไป