เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานอนุกรรมการด้านสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานประชุมชี้แจงข้อเท็จจริง และติดตามการทำหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี กรณีสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต 2 ราย ในพื้นที่ชุมชนคลองไทรพัฒนา ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี

การประชุมดังกล่าวมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม ดังนี้ 1.นายสถิตพงศ์ สุดชูเกียรติ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 2.ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี 3.ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี 4.อัยการจังหวัดกระบี่ 5.เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี 6.นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความผู้เชี่ยวชาญ 7.สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่ 8.นายอำเภอชัยบุรี 9.ผกก.สภ.ชัยบุรี และชาวบ้านสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ผู้ได้รับผลกระทบ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2555 คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงนางปรานี บุญรักษ์ และนางมลฑา ชูแก้ว ชาวบ้านชุมชนคลองไทรพัฒนา หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตคาที่ และข้อมูลชันสูตรพบว่า มีการใช้เหล็กแหลมแทงที่กะโหลกศีรษะด้วย ทั้งนี้หญิงทั้งสองเข้ามาต่อสู้เรียกร้องสิทธิที่ดินทำกินตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ในพื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และเป็นพื้นที่นำร่องนโยบายโฉนดชุมชนในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ร่วมตัวยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ศาลากลางจังหวัด เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2555 จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ส่งกำลังอาสาสมัคร4 นายเข้าไปอยู่ในชุมชน

อย่างไรก็ตามตัวแทนชาวบ้านระบุว่า การจัดกำลังอาสาสมัครดังกล่าว ไม่เพียงพอต่อการรักษาความปลอดภัยของชาวบ้าน เพราะอาสาสมัครดังกล่าวไม่มีอำนาจจับกุมตรวจค้น ไม่สามารถรับรองความปลอดภัยได้ อีกทั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงก็ยังมีกลุ่มคนแปลกหน้าขับรถยนต์เข้ามาวนเวียนคอยสังเกตการณ์ในชุมชน ซึงมีทางเข้า-ออกเพียงเส้นทางเดียว ทั้งนี้ชาวบ้านระบุว่า ต้องการประสานส่วนจังหวัดให้สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือตำรวจตระเวนชายแดนมาดูแลในพื้นที่

ด้านพ.ต.อ.บวร พรพรหมา ผกก.สภ.ชัยบุรี ให้ข้อมูลว่า มือปืนเป็นกลุ่มอิทธิพลในอ.เขาพนม จ.กระบี่ ซึ่งอยู่นอกเขตพื้นที่รับผิดชอบ ดังนั้นการทำงานจึงค่อนข้างมีอุปสรรคมาก และจากข้อมูลล่าสุดกลุ่มมือปืนจะยังไม่หยุดก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะตัวแทนชุมชนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ส่วนอัยการจังหวัดกระบี่รับปากว่า จะเร่งดำเนินการร้องขอยกเลิกการทุเลาบังคับคดีของบริษัทฯ ต่อศาลจังหวัดกระบี่โดยเร่งด่วนเช่นกัน

ขณะที่ น.พ.นิรันดร์จี้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งทำงานอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ พร้อมระบุว่า กรรมการสิทธิ์จะเร่งติดตามการทำงานของ ส.ป.ก.และการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องคดี รวมทั้งเงินชนเชยที่กรมคุ้มครองสิทธิ์ กระทรวงยุติธรรมจะมอบให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป

ทั้งนี้พื้นที่เกิดเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว มีปมขัดแย้งเรื่องที่ดินมายาวนาน จากกรณีที่บริษัทเอกชนบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมันโดยผิดกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 โดยไม่ได้เสียภาษีให้รัฐ ต่อมา ส.ป.ก.ได้ฟ้องขับไล่ รื้อถอนต่อบริษัทฯ ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิจารณาตัดสินให้ ส.ป.ก.ชนะคดี

ปัจจุบันบริษัทขอทุเลาบังคับคดีคุ้มครองผลอาสินในชั้นศาลฎีกา อย่างไรก็ตามในระหว่างการขอทุเลาบังคับคดีพบข้อมูลว่า บริษัทเอกชนและกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่นบางคนได้ตัดแบ่งที่ดิน ส.ป.ก.แปลงนี้ขายให้กับนายทุนรายย่อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนในจ.กระบี่ โดยมีการทำหนังสือสัญญาซื้อขายไว้เป็นหลักฐาน

ดังนั้นการที่มีชาวบ้านเข้ามาอาศัยและทำการเกษตรในพื้นที่เพื่อผลักดันให้หน่วยงาน ส.ป.ก.เข้ามาจัดสรรที่ดินทำให้บริษัทเอกชนและกลุ่มอิทธิพลเกิดความไม่พอใจเพราะต้องสูญเสียผลประโยชน์จำนวนมากและอาจถูก ส.ป.ก. ดำเนินคดีตามกฎหมาย กลุ่มอิทธิพลจึงได้ใช้วิธีการข่มขู่คุกคาม และทำร้ายชาวบ้านในชุมชนมาอย่างต่อเนื่องเช่นการเผาทำลายบ้าน การใช้รถแบคโฮไถบ้านเสียหาย และกรณียิงนายสมพร พัฒนภูมิ สมาชิกชุมชนบ้านคลองไทรพัฒนาเสียชีวิตในปี พ.ศ.2553 ซึ่งขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า