เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยภายหลังนายสุวันชัย แสงสุขเอี่ยม ประธานคณะกรรมการธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าพบเพื่อหารือในประเด็นความร่วมมือตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ว่า ในแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวมีแนวทางขับเคลื่อนทั้งหมด 5 ข้อ ในข้อที่ 3 คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมงและผลิตภัณฑ์ประมง มีความเกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เพราะมีกลยุทธ์สำคัญ คือการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในสาขาวิชาชีพ ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนคน เพราะธุรกิจประมงมีอยู่ 3 อย่าง คือ ประมงทะเล ก็มีปัญหาขาดแคลนไต้ก๋ง นายท้าย วิศวกร เรดาห์ หรือการสื่อสาร ต่อมาคือการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ก็ยังขาดเทคนิคการเพาะเลี้ยง และการแปรรูปสัตว์น้ำ ก็ขาดแรงงานระดับหัวหน้าผู้ควบคุมดูแลงาน และคนที่ดูแลความปลอดภัยอาหาร

              “สภาหอการค้าฯ กำลังขาดแคลนแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะคนที่จบระดับปริญญาตรีทางด้านประมง วาริชศาสตร์ จะไม่เลือกลงเรือทำงาน จึงหารือถึงแนวทางการส่งเด็กอาชีวะระดับ ปวช. ปวส.และปริญญาตรีสายปฏิบัติการ มาทำงานเพราะนอกจากมีความรู้แลัวยังลุยงานด้านนี้ได้ ซึ่ง สอศ.ก็ยินดีให้ความร่วมมือ เพราะมีวิทยาลัยประมงอยู่ 4 แห่ง ตลอดจนวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) ที่เปิดสอนสาขาประมงอีก 13 แห่ง พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว โดยเบื้องต้นจะแต่งตั้งคณะกรรมการร่วม 4 ฝ่าย จาก สอศ. สภาหอการค้าฯ ผู้ประกอบ และนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนเร่งผลิตกำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ และกำหนดความร่วมมือในการแนะแนวอาชีพ ประชาสัมพันธ์ พัฒนาปรับปรุงหลักสูตร จัดการเรียนการสอนแบบทวิภาคี และส่งเสริมให้มีงานทำ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันทีในปีการศึกษา 2556” เลขาธิการ กอศ.กล่าว