ประกอบด้วย 1.กรณีขบวนการบุกรุกและลักลอบขุดทรายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา 2.กรณีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก หมู่ 1 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 3.กรณีการทุจริตในโครงการแก้ไขปัญหาราคาหอมแดงตกต่ำ ฤดูกาลผลิต ปี 2554/2555 จ.ศรีสะเกษ 4.กรณีบริษัทเอกชนซึ่งเป็นผู้ผลิต ผู้จำหน่ายหรือตัวแทนจำหน่ายเครื่องตรวจวัตถุสงสัย ซึ่งมีพฤติการณ์ฉ้อโกงหรือลวงขายเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัยที่ไม่มีคุณภาพ ตามที่กล่าวอ้างกับหน่วยงานของรัฐ 5.กรณีการลักลอบเปิดบ่อนออนไลน์กลางเมือง ในพื้นที่หลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
6.กรณีน.ส.โซเบดา พงษ์สว่าง ร้องขอต่อดีเอสไอให้ดำเนินคดีกับนางรัศมี คาน กับพวก ในข้อหาข่มขู่ทำให้เกิดความกลัวหรือตกใจ โดยการขู่เข็ญและข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย จนถึงแก่เสียชีวิต พยายามลักพาตัวบุตรสาว และเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีของศาล 7.กรณีการทำสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมาย 8.กรณีการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550
นายธาริตกล่าวว่า กรณีการทำสัญญาบีทีเอสกับกรณีการรับบริจาคเงินของพรรคประชาธิปัตย์ กคพ.ให้ความสำคัญและใช้เวลาในการพิจารณานาน เพื่อให้เกิดความรอบคอบที่สุด โดยได้กำชับให้ดีเอสไอทำงานร่วมกับอัยการอย่างใกล้ชิด หากจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาใด กับบุคคลกลุ่มใดก็ต้องเป็นความเห็นชอบร่วมกัน แต่เบื้องต้นยืนยันว่ายังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใครทั้งสิ้น การรับเป็นคดีพิเศษก็เพียงกระบวนการขอความเห็นชอบเพื่อนำไปสู่การสอบสวน แต่หากสอบสวนไม่พบความผิดก็ต้องยุติ ส่วนแนวทางการสอบสวนหลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อหารือกับอัยการเพื่อกำหนดแนวทางการสอบสวนต่อไป ยืนยันว่าบอร์ดกคพ.ไม่ได้เป็นห่วงกรณีที่อาจถูกถอดถอนจากตำแหน่งตามที่ถูกข่มขู่จากผู้ถูกร้อง เพราะสิ่งที่ดำเนินการถือเป็นการทำงานตามหน้าที่ตามที่มีผู้ร้องให้สอบสวนเท่านั้น
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ