‘ชาวบ้าน-ประมง’จับมือปล่อยเต่า ตัดอวนต้นเหตุทำเต่า-โลมาตาย

วันชัย พุทธทอง ศูนย์ข่าว TCIJ 9 ก.ย. 2555


เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2555 ที่ชายหาดบ้านสวนกง ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา มีกิจกรรมปล่อยเต่ากลับลงทะเล 5 ตัว และร่วมกันดำน้ำทำความสะอาดปะการังเทียม โดยการดำน้ำลงไปตัดเนื้ออวนของชาวประมงที่ถูกปะการังเทียมตัดขาดติดอยู่ตามกองปะการังเทียม ในอ่าวบ้านสวนกง ซึ่งเนื้ออวนที่ขาดติดอยู่ตามกองปะการังเทียมฆ่าโลมา และเต่าทะเลไปแล้วจำนวนมาก

 

นายดนรอนี ระหมันยะ ประธานกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งทะเลบ้านสวนกง กล่าวว่า กิจกรรมของชาวบ้านสวนกงและเครือข่าย มีการปล่อยเต่า และดำน้ำทำความสะอาดปะการังเทียมที่อ่าวบ้านสวนกง เนื่องจากก่อนหน้านี้พบว่า โลมาและเต่าทะเลตายอย่างต่อเนื่อง สาเหตุพบว่า เต่าติดอวนชาวประมงทำให้จมน้ำตาย แต่โชคดีที่ส่วนหนึ่งชาวประมงสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ แต่หลายตัวก็ตายก่อนที่ชาวประมงจะไปพบ

 

 

เมื่อชาวประมงพบว่า สาเหตุการตายของเต่าและโลมามาจากเศษอวนดังกล่าว จึงช่วยการรณรงค์ให้ชาวประมงด้วยกันร่วมมือกันดูแลเต่า ที่ว่ายน้ำมาติดอวน หากพบให้รีบปล่อยทันที และหากบาดเจ็บให้รีบแจ้งศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จ.สงขลา มารับไปรักษาพยาบาล และวันนี้ได้ประสานเครือข่ายมาร่วมกันดำน้ำลงไปตัดเนื้ออวนที่ติดอยู่ตามปะการังขึ้นมาบนฝั่ง ได้เนื้ออวน 104 กิโลกรัม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อความปลอดของเต่าและโลมาและปลาชนิดอื่น ๆ

 

ด้านนายสนธยา ประไพทรัพย์ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จ.สงขลา กล่าวว่ากิจกรรมวันนี้เกิดขึ้นจากการประสานงานของชุมชนสวนกง เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทะเลแห่งนี้ โดยชุมชนให้ข้อมูลถึงสถานการณ์เสียชีวิตของเต่าและโลมาในช่วงที่ผ่านมา และให้ข้อมูลถึงสาเหตุด้วย จากนั้นได้ประสานให้ทำกิจกรรมปล่อยเต่า และทำความสะอาดปะการังร่วมกัน โดยทางชุมชนขอสนับสนุนพันธุ์เต่าเพื่อนำมาปล่อยกลับลงทะเล และต้องการที่จะดำน้ำลงไปตัดเศษเนื้ออวนที่ติดอยู่ตามปะการังเทียม ทางหน่วยงานเห็นว่า เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์จึงร่วมสนับสนุน เมื่อเสร็จกิจกรรมในวันนี้ประเมินว่าเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายโดยได้สนับสนุนเต่า 5 ตัว เพื่อปล่อยกลับลงทะเล และร่วมกันดำน้ำลงไปตัดเศษอวนที่กองปะการังเทียมได้ 104 กิโลกรัม และหวังว่าต่อไปคงได้ร่วมกันทำกิจกรรมกับชุมชนอีก

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: