สปถ.สรุป6วันสงกรานต์ตาย282 อุบัติเหตุรถชนสยองครองแชมป์

ชุลีพร บุตรโคตร ศูนย์ข่าว TCIJ 17 เม.ย. 2555 | อ่านแล้ว 2088 ครั้ง

 

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ในการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 ได้แบ่งโซนพื้นที่เสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน โดยพิจารณาจากสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ย้อนหลัง 6 ปี แยกเป็น โซนสีแดง (จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ปีมากกว่า 40 ราย) รวม 17 จังหวัด โซนสีเหลือง (จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ปี เท่ากับ 31-40 ราย) รวม 13 จังหวัด โซนสีเขียว (จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ปี เท่ากับ 16-30 ราย)  รวม 22 จังหวัด โซนสีขาว (จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ปี เท่ากับ 0-15 ราย) รวม 25 จังหวัด  เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์  มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม  ติณสูลานนท์  จะมอบเงินรางวัลให้กับจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. โดยจังหวัดโซนสีแดงได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท จังหวัดโซนสีเหลืองได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท จังหวัดโซนสีเขียวได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท จังหวัดโซนสีขาวได้รับเงินรางวัล  50,000 บาท

นายวิบูลย์กล่าวต่อว่า จากการรวบรวมสถิติในช่วง 6 วันของการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์” ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย.มีจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน (ตายเป็นศูนย์) รวม 9 จังหวัด แยกเป็น จังหวัดในพื้นที่โซนสีแดง 1 จังหวัด ได้แก่  ลพบุรี  จังหวัดในโซนสีเหลือง 2 จังหวัด ได้แก่ นครพนม ตรัง จังหวัดในโซนสีเขียว 1 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี จังหวัดในโซนสีขาว 5 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง ปัตตานี ตราด สตูล

ทั้งนี้จากการรวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา พบจังหวัดที่มีอัตราการเสียชีวิตมากกว่า 40 ราย (จังหวัดโซนสีแดง) จำนวน 17จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด จันทบุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น นครศรีธรรมราช ชลบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบูรณ์ ลพบุรี กรุงเทพมหานคร เชียงราย นครสวรรค์ เชียงใหม่ นครราชสีมา และพิษณุโลก ซึ่งจังหวัดดังกล่าวมีอัตราการเสียชีวิต  คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45.45 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด   โดย ในช่วง 6 วันของการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์” ของ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย.พบว่า จังหวัดลพบุรีเป็นจังหวัดเดียวในพื้นที่จังหวัดโซนสีแดงที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เลย ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้จังหวัดลพบุรีสามารถลดอุบัติเหตุทางถนน ได้ตามเป้าหมาย และไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เนื่องจากใช้มาตรการทางกฎหมายควบคู่กับมาตรการทางสังคม พร้อมทั้งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งจุดตรวจสนธิกำลังตามจุดเสี่ยงต่างๆ เรียกตรวจจับและดำเนินคดีอย่างจริงจังกับผู้กระทำผิดกฎจราจรตามมาตรการลดพฤติกรรมเสี่ยง 10 มาตรการ โดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ  ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ สะท้อนให้เห็นว่า “ยิ่งตรวจจับมาก อุบัติเหตุยิ่งลดลง”  และหากภายในระยะเวลาของการรณรงค์ดังกล่าว จ.ลพบุรียังคงไม่มีบุรีไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน  จะได้รับรางวัลเงินสด 1 ล้านบาท จากมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์

ด้าน นายฉัตรป้อง  ฉัตรภูติ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เม.ย.ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์“สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็น “ศูนย์” เกิดอุบัติเหตุ 291 ครั้ง ผู้เสียชีวิต  29 ราย ผู้บาดเจ็บ 308 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 36.77 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 24.40

ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.87 รถปิคอัพ ร้อยละ 6.71 พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ การโดยสารรถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 32.05 ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ร้อยละ 6.23 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ  59.79 บนถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.02 ถนนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 31.96

 

 

 

ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 29.90  ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 52.82 จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ 14 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ตราด นครนายก นนทบุรี บึงกาฬ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ยโสธร เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สมุทรปราการ และหนองบัวลำภู

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 13 ครั้ง จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 53 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย ตาก ราชบุรี  สระบุรี และอุดรธานี จังหวัดละ  2 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ 16 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุพรรณบุรี 16 คน ทั้งนี้ ได้จัดตั้ง จุดตรวจหลัก 2,400  จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 69,580 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 694,795 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 104,104  ราย โดยมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 30,630 ราย รองลงมา ไม่มีใบขับขี่  30,039  ราย รวม 6 วัน จำนวน 282 ศพ

นอกจากนี้ จากการสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน เกิดอุบัติเหตุรวม  2,872 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 282 ราย  ผู้บาดเจ็บรวม 3,059 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง 6 วัน มี 9  จังหวัด ได้แก่ ตรัง ตราด นครพนม ปัตตานี ยะลา  ระนอง ลพบุรี สตูล และสิงห์บุรี จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 6 วัน มี 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ และยโสธร จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ เชียงราย 116 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ สระบุรี  สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 11 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 117 คน

นายฉัตรป้องกล่าวต่อว่า ศปถ.ได้ประสานให้ทุกจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนดำเนินการตามมาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนตามแผนที่ได้กำหนดไว้ เพื่อรองรับการเดินทางกลับของประชาชนและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งจะช่วยลดสถิติอุบัติเหตุทางถนน และสร้างความปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์

จากการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 6 วัน ของการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์” พบว่า สถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ร้อยละ 23.14  โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลักจากดัชนีความรุนแรงของอุบัติเหตุทางถนน (สัดส่วนผู้เสียชีวิตต่อการอุบัติเหตุทางถนนแต่ละครั้ง) สูงกว่าปีที่ผ่านมา  คิดเป็นร้อยละ 9.80 โดยเฉพาะอุบัติเหตุใหญ่ มีสาเหตุหลักจากรถกระบะที่บรรทุกคนตอนท้ายกระบะ อีกทั้งผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งการขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด การดื่มสุรา และการหลับใน ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้อุบัติเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังพบว่า อุบัติเหตุรถตู้และรถโดยสารสาธารณะอยู่ในอัตราต่ำกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการนำระบบ RFID มาใช้ในการควบคุมความเร็ว คุณภาพรถทั้งสภาพรถและความพร้อมของพนักงานขับรถ รวมถึงมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด  อีกทั้งถนนสายรองที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุ การเสียชีวิตและการบาดเจ็บน้อยลง

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: