จี้รัฐแก้กฎหมาย-จัดระเบียบการพนันใหญ่ หวั่นมอมเมาสังคม-เด็กเยาวชนหนักขึ้นอีก ให้กสทช.เข้มออนไลน์-ทายเอสเอ็มเอส หวยรัฐจัดนโยบายชัด-วอนสื่อเลิกกระตุ้น

ชุลีพร บุตรโคตร ศูนยข่าว TCIJ 5 มี.ค. 2555 | อ่านแล้ว 816 ครั้ง

 

มูลนิธิสดศรีฯขยับต่อ ‘ต้านการพนัน’

 

หลังการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ภายใต้โครงการจัดการความรู้เพื่อขับเคลื่อนสังคมปลอดพนันมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ สานต่อโครงการฯ ขึ้นอีกครั้ง โดยการจัดเวทีขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อป้องกันเด็ก เยาวชน จากการพนัน โดย มีเครือข่ายสนับสนุนร่วมจัดงาน ได้แก่ ศูนย์ข้อมูล & ข่าวสืบสวนสอบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ), เครือข่ายอาสาสมัครนักสื่อสารชุมชน (ค.อสช.),ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย, คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และ ชมรมวิทยุเด็ก เยาวชน และครอบครัว ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งได้รับความสนใจจากภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก ณ โรงแรมทีเค พาเลซ ถ.แจ้งวัฒนะ เมื่อต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

 

เปิด 4 ประเด็นใหญ่ ‘พนันบอล-เอสเอ็มเอส-พนันออนไลน์-หวย’

 

สำหรับการประชุมนับเป็นความก้าวหน้าจากการขับเคลื่อนประเด็นการพนัน ให้เป็นที่สนใจของสังคมอีกก้าวหนึ่ง โดยเฉพาะการนำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบาย ในประเด็นการพนัน 4 เรื่อง ได้แก่ การทายผลการแข่งขันฟุตบอล การเสี่ยงโชคด้วยการส่งข้อความสั้น (SMS) การพนันออนไลน์ และการจำหน่ายสลากด้วยเครื่องอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) ซึ่งวิเคราะห์จากข้อมูลทางวิชาการ และระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยผ่านการกลั่นกรองจากคณะผู้ทรงคุณวุฒิ

การประชุมในช่วงเช้า มีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปาฐกถาหัวข้อ “บทบาทของสถาบันทางสังคมและการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อป้องกันเด็กเยาวชนจากการพนัน” ก่อนที่จะเปิดเวทีเสวนาใหญ่เรื่อง “เยาวชนกับการพนัน : หลากหลายมุมมองหลายทางแก้” โดย น.ส.สุชาดา จักรพิสุทธ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูล & ข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง เป็นผู้ดำเนินรายการ วิทยากรจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการพนันในมิติต่างๆ,บทบาทขององค์กรหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บทบาทของหน่วยงานภาครัฐ สื่อมวลชน สถาบันการศึกษา การดำเนินงานด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงชุมชน และสื่อท้องถิ่น โดยมีวิทยากรผู้เกี่ยวข้องร่วมแสดงความคิดเห็น อาทิ น.พ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เลขาธิการมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์  คณะอนุกรรมการส่งเสริมจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ประธานคณะทำงานจัดทำคู่มือการรายงานข่าวกีฬา รวมไปถึงนักวิชาการ และตัวแทนภาคประชาชนจากทั่วประเทศ ร่วมเสวนาเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านการพนัน โดยส่วนใหญ่เห็นว่าควรจะต้องรีบดำเนินการเพื่อให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้นแม้จะมองว่าเป็นปัญหาใหญ่และยากที่สุดปัญหาหนึ่งก็ตาม

 

 

แนะแก้กฎหมาย-เพิ่มโทษ-ให้ความรู้เจ้าหน้าที่มากขึ้น

 

ต่อมาในช่วงบ่ายมีการเสวนากลุ่มย่อยใน 3 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่ ข้อเสนอนโยบายเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันบอล โดยเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายประเด็นพนันบอลโดย อ.สายชล ปัญญชิต,ข้อเสนอนโยบายเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันออนไลน์และการเสี่ยงโชคทาง SMS นำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายโดย นายธาม เชื้อสถาปนศิริ และ นายไพศาล ลิ้มสถิต และประเด็นข้อเสนอนโยบายเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากสลากอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) นำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายโดย ดร.วิเชียร ตันศิริมงคล

สำหรับเกิดขึ้นจากการพนันออนไลน์ที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะการนำเยาวชนเข้าไปสู่การพนันบนโลกอินเตอร์เน็ตมากขึ้นแบบไม่รู้ตัว ในขณะที่กฎหมายยังไม่สามารถเอื้อมเข้าไปจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างจริงจัง ทั้งนี้ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายในประเด็นนี้ มีการเสนอให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายไม่ได้ครอบคลุมไปถึงการพนันออนไลน์ ทั้งนี้ขอให้มีการปรับปรุงฐานความผิดเกี่ยวกับการพนันให้ชัดเจน ทั้งกรณีของผู้กระทำผิดและเจ้ามือ โดยเฉพาะการกำหนดบทลงโทษสำหรับเจ้ามือให้รุนแรงขึ้น ในขณะที่ผู้กระทำหรือเข้าไปเล่น ก็ควรจะมีบทลงโทษที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้เล่นเกรงกลัวด้วย

นอกจากนี้ในกรณีของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  ก็ควรจะมีการเพิ่มข้อบัญญัติให้ครอบคลุมถึงการเล่นการพนัน เพราะปัจจุบันไม่ได้กล่าวถึงไว้ ขณะเดียวกันควรจะสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังเว็บไซต์ผิดกฎหมาย โดยเพิ่มความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชน เพื่อช่วยกันแจ้งข้อมูล รวมทั้งการขอความร่วมมือกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในการตรวจสอบผู้ดำเนินการเว็บไซต์การพนัน และจะต้องมีการเฝ้าระวังตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินที่น่าสงสัยต่างๆ ส่วนรัฐเองก็จะต้องรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย

 

“สิ่งที่จะต้องดำเนินการเพิ่มเติมได้แก่  การจัดทำและเปิดเผยรายงานการดำเนินคดีผู้กระทำผิดกรณีพนันออนไลน์เพื่อรายงานให้ประชาชนทราบ เพื่อจะได้มีการเร่งรัดการดำเนินการไปตามกฎหมาย การจัดตั้งองค์กรกำหนดนโยบายควบคุมดูแลเรื่องการพนันระดับชาติ สภาวิชาชีพสื่อมวลชนเองก็มีบทบาทอย่ามากในการสนับสนุนให้สมาชิกหลีกเลี่ยงการนำเสนอการทายผลกีฬาต่างๆ หรือการรายงานผล การคาดเดาที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการพนัน และจะต้องมีการจำกัดช่องทางการเผยแพร่สื่อโฆษณาพนันออนไลน์ โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อ ที่มีการจำหน่ายหนังสือพิมพ์กีฬาหรือนิตยสารบางฉบับ ที่มีการโฆษณาหรือเชิญชวนให้ผู้อ่านเล่นพนันบอลอย่างชัดเจน” นายไพศาลกล่าว

 

 

ยังไม่มีมาตรการคุมเอสเอ็มเอสชัดเจน

 

สำหรับข้อสรุปเชิงนโยบายเพื่อป้องกัน ควบคุมการพนันด้วยการส่งข้อความสั้นเสี่ยงโชค SMS  นั้น นายธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการด้านสื่อ กล่าวว่า ปัจจุบันระบบการส่งข้อความสั้น หรือ SMS ของโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นช่องทางหนึ่งที่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจมักใช้ในรูปแบของการเล่นเกมส์ ตอบปัญหา แสดงความคิดเห็น หรือทายผลทั้งแบบที่มีรางวัลและแบบไม่มีรางวัลตอบแทน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีมาตรการควบคุม และยังคงเป็นปัญหาเรื่องการตีความประเด็นนี้ว่าผิดกฎหมายหรือไม่ และมีกฎหมายใดครอบคลุมถึงบ้าง ทำให้ที่ผ่านมามีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียเงินจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว จากการส่งข้อความเข้าไปเสี่ยงโชคหรือชิงรางวัล ตามที่ผู้ประกอบการจัดขึ้น ส่งผลกระทบนอกจากการเสียเงินจำนวนมากโดยไม่รู้ตัวดังกล่าวแล้ว ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้เกิดนักพนันหน้าใหม่ขึ้น เนื่องจากเป็นต้นทางที่ทำให้คนรู้สึกอยากเสี่ยงโชค และอาจจะสร้างปัญหาใหญ่ต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนไทยที่ปัจจุบันใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น

 

จี้แก้กฎหมาย-กสทช.ต้องออกระเบียบกำกับ

 

“ข้อเสนอเชิงนโยบายในประเด็นนี้ ได้แก่ ขอให้มีการปรับปรุแก้ไขกฎหมายการพนันให้ครอบคลุมเรื่องการโฆษณา การให้ข้อมูลข่าวสารการพนัน โดยกำหนดให้การส่งข้อความสั้นเพื่อการชิงโชคเข้าข่ายเป็นการพนัน ที่มีบทลงโทษชัดเจน รวมทั้งขอให้มีการรณรงค์สื่อสารทางสังคม เพื่อสร้างความชัดเจนระหว่างการแถมพก การให้รางวัลด้วยการเสี่ยงโชค และการพนันว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ขณะเดียวกันควรจะมีการให้ใช้อำนาจทางกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยการออกกฎระเบียบที่ถือห้ามไม่ให้กิจการโทรคมนาคม กิจการสื่อสารมวลชน ทำกิจกรรมการชิงโชค เสี่ยงโชค เสี่ยงรางวัล หรือการประมูลสินค้าบริการ ในส่วนของรัฐนั้น กระทรวงวัฒนธรรมควรจะได้รับอำนาจในการกำกับดูแลการโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ด้วย พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 ที่จะห้ามไม่ให้ตีพิมพ์ โฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการชิงโชค การโฆษณา หรือกิจกรรมใดที่เข้าข่ายกฎหมายลักษณะการพนัน” นายธามกล่าว

 

ผู้จัดแข่งขันฟุตบอลต้องร่วมมือลดพนันด้วย

 

ด้านนายสายชล ปัญญชิต ผู้นำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายเรื่อง “การจัดการปัญหาการพนันฟุตบอลในสังคมไทย” กล่าวว่า ปัญหาการพนันฟุตบอลในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ได้สร้างผลกระทบต่อสังคมไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคมที่รุนแรงหลายระดับตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่องตลอดมา ในขณะที่การแก้ไขปัญหายังไม่มีความชัดเจน จนไม่สามารถแก้ไขหรือลดความรุนแรงของปัญหานี้ลงได้ โดยข้อเสนอเชิงนโยบายในประเด็นปัญหาการพนันฟุตบอล ได้แก่ ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบ กำกับดูแล สถานีวิทยุ โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ที่มีการนำเสนอรายการกีฬาที่มีลักษณะล่อแหลมต่อการส่งเสริม และการชี้ชวนให้เกิดการเล่นการพนันฟุตบอล นอกจากนี้ยังควรกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่รับสัมปทานของภาครัฐ ที่ปล่อยปละละเลยให้มีการนำเสนอรายการในลักษณะดังกล่าว

นายสายชลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัทไทยพรีเมียร์ ลีก จำกัด ในฐานะผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพของไทย กำหนดเป็นนโยบายให้ในการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก และการแข่งชันรายการอื่นๆ ที่จัดโดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เช่น รายการมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ รายการโตโยต้าลีกคัพ รายการคิงส์คัพ เป็นต้น ต้องไม่มีหนังสือพิมพ์หรือสื่อออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการเล่นพนัน หรือในลักษณะการบอกราคาต่อรอง การวิเคราะห์การแข่งขัน ที่มีลักษณะส่งเสริมให้เล่นการพนันเข้ามาอยู่ในบริเวณรอบสนามฟุตบอลโดยเด็ดขาด

 

แนะกำหนดจริยธรรมการเสนอข่าวของสื่อกีฬา

 

นอกจากนี้สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬา สมาคมผู้สื่อข่าววิทยุ และสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยหรือองค์กรวิชาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชน ควรกำหนดจริยธรรมของการรายงานข่าวกีฬา มิให้ส่งเสริมการเล่นการพนันฟุตบอล และควรมีมาตรการลงโทษต่อสื่อมวลชนที่ละเมิดจริยธรรมดังกล่าว รวมทั้งควรมีการผลักดันให้เกิด “เครือข่ายเฝ้าระวังทางสังคม” เพื่อคอยช่วยตรวจสอบและสนับสนุนข้อมูลให้กับการทำงานของภาครัฐ อีกทั้งเพื่อเฝ้าระวังภาคเอกชนที่พยายามใช้ความนิยมในกีฬาฟุตบอล เพื่อผลประโยชน์และชี้ชวน ส่งเสริมให้เกิดการเล่นการพันฟุตบอลในสังคมไทยด้วย

 

เสนอนโยบาย 9 ข้อแก้ ‘หวยออนไลน์’

 

สำหรับประเด็นการจำหน่ายสลากด้วยเครื่องอัตโนมัติ หรือ หวยออนไลน์ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนในขณะนี้  นำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบายโดย ดร.วิเชียร ตันศิริมงคล โดยมีข้อเสนอรวมทั้งหมด 9 ข้อด้วยกัน ได้แก่  1.รายได้จากการจำหน่ายสลาก 3 ตัว 2 ตัว ด้วยเครื่องอัตโนมัติ ที่เป็นส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการร้อยละ 12 และเมื่อหลังหักส่วนลดให้ตัวแทนจำหน่ายแล้ว ควรมีการวางเป้าหมายในการนำเงินรายได้สุทธิในส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์สาธารณะให้ชัดเจน  2.คณะกรรมการสำนักงานสลากฯ ควรแถลงนโยบายในการกำกับการดำเนินงานของสำนักงานสลากฯ เพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ควรมีตัวชี้วัดหลักที่ใช้ในการกำหนดเป้าหมายในการดำเนินการของคณะกรรมการฯ รวมถึงให้มีการเปิดเผยหลักเกณฑ์วิธีในการกำหนดส่วนลดให้กับตัวแทนจำหน่าย ให้มีการเปิดเผยการดำเนินงานด้านต่างๆ ของสำนักงานสลากฯ เพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้ 3.การจัดสรรเงินที่คืนสู่สังคมนั้นควรจัดสรรให้กับชุมชนซึ่งเป็นพื้นที่จุดจำหน่ายเพื่อเป็นกองทุนรณรงค์ต่อต้านการเล่นการพนัน โดยเฉพาะป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริโภคสลาก

 

กองสลากฯ ต้องกำหนดกติกา-นโยบายให้ชัดเจน

 

นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ต้องมีการทำกติกาอย่างชัดเจนว่า ตามสัญญาที่จะดำเนินการขายสลากฯ ด้วยเครื่องนั้น ภายในระยะเวลา 5-6 ปี รัฐจะทำอะไรและอย่างไร โดยมีการกำหนดรูปแบบเกมและปริมาณสลาก รวมทั้งปริมาณเครื่องจำหน่ายให้ชัดเจน โดยไม่มองด้านผลประโยชน์ในรูปการเงินของรัฐเป็นตัวตั้งและต้องประกาศให้เป็นที่รับรู้ของประชาชนโดยทั่วไปรวมถึงสำนักงานกองสลากฯ ต้องจัดทำการประเมินนโยบายการจำหน่ายสลากด้วยเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติเป็นประจำทุกปี โดยองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหากำไร และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับสำนักงานสลากฯ ทั้งนี้เพื่อประเมินถึงผลดี ผลเสีย ของนโยบายดังกล่าวอย่างหลากหลาย ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม

 

“ในข้อที่ 5 นั้น รัฐโดยสำนักงานสลากฯ จะต้องออกมาตรการในการห้ามจำหน่ายสลากฯ ให้กับเด็กและเยาวชน และควรมีหลักประกันว่า ไม่สามารถจำหน่ายให้กับเด็กและเยาวชนได้อย่างจริงจัง  6.สำนักงานสลากฯ ต้องกำหนดบทลงโทษตัวแทนผู้จำหน่ายให้ชัดเจนว่า หากมีการจำหน่ายสลากฯให้กับเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 จะมีผลอย่างไร 7.กรณีมีการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสลากชุมชน จุดจำหน่ายไม่ควรอยู่ใกล้ วัดและโรงเรียน โดยจุดจำหน่ายต้องมีระยะห่างสถานที่ดังกล่าวเกิน 50 เมตร 8.สำนักงานสลากฯ ต้องยืนยันว่าการจำหน่ายสลากฯ ด้วยเครื่องจำหน่าย สำนักงานสลากฯ จะไม่นำเครือข่ายการจำหน่ายนี้ไปขยายสินค้าการพนันในรูปแบบสลากอื่นๆ และ สำนักงานสลากฯ ต้องวางมาตรการในการตรวจสอบป้องกันไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดการเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากฯ อาจจะเป็นช่องทางในการนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปฟอกเป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายได้”

 

หวั่นการพนันกระทบสมองเด็ก-เยาวชนอย่างถาวร

 

ด้าน น.พ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เลขาธิการมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ กล่าวสรุปว่า ในอดีตสังคมมักปรามาสว่า ปัญหาการพนันเป็นเรื่องที่จะไม่มีสามารถแก้ปัญหาได้ เพราะการพนันกับคนไทยเป็นของคู่กันมานานตั้งแต่ในอดีต และอาจจะกลายเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของคนไทยไปแล้ว ทำให้ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานไหนเสนอตัวที่จะเข้ามาขับเคลื่อนแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง คนไทยจึงยังต้องอยู่กับการพนันที่สร้างความเดือดร้อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการพนันตลอดมา

อย่างไรก็ตามในการมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ ได้พยายามหยิบยกปัญหาการพนันขึ้นมาขับเคลื่อนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เห็นว่า แท้จริงแล้วสังคมต่างก็ตระหนักและให้ความสนใจในปัญหานี้ แม้ว่าจะยังหาทางออกที่ชัดเจนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชนที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้การแก้ไขปัญหาการพนันเป็นรูปธรรมได้มากขึ้น

น.พ.ประเสริฐกล่าวด้วยว่า สิ่งที่จะต้องรีบดำเนินการนอกจากการขับเคลื่อนด้านนโยบายจากข้อเสนอต่างๆ แล้ว สังคมควรจะต้องให้ความสำคัญกับการแพร่ขยายของปัญหาการพนันเข้าสู่เยาวชนที่ปัจจุบันพบว่ามีความรุนแรงมากขึ้น  ซึ่งจากข้อมูลงานวิจัยพบว่าการที่เด็กและเยาวชนเล่นพนันจะส่งผลกระทบต่อสองของเยาวชนอย่างถาวร โดยเฉพาะเด็กในช่วงอายุ 9-12 ปี เป็นช่วงที่สมองจะสลายวงจรประสาทที่ไม่ค่อยใช้งานทิ้งอย่างถาวร ซึ่งการเล่นพนันจะส่งผลกระทบต่อสมองส่วนหน้าของมนุษย์ ซึ่งเป็นส่วนที่พัฒนาความมุ่งมั่น แรงบันดาลใจ การมุ่งหวังต่ออนาคต หากเด็กและเยาวชนที่เล่นพนันจะส่งต่อวิธีคิดที่อยากได้ อยากมีเร็วๆ มากๆ โดยลงทุนน้อยๆ หากวิธีคิดแบบนี้ถูกปลูกฝังไปก็จะมีผลต่ออนาคตของเยาวชนและสังคมโดยรวม

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: