ตะลึงโลกพบภาพเขียนศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคเรเนสซองซ์ ‘ลีโอนาโด ดาวินชี’ ที่หายไปกว่า 4 ศตวรรษ ถูกซ่อนหลังกำแพง-ภาพเขียนมูลค่ามหาศาลแห่งศตวรรษที่ 16

20 มี.ค. 2555


 

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกว่า ในปี 1502 ลีโอนาโด ดาวินชี ได้รับมอบหมายจากรัฐบุรุษชาวอิตาลี ชื่อ ปิเอโร โซเดอรินีชี ให้วาดภาพอัศวินชาวอิตาลีที่มีชัยต่อชาวมิลาน ณ ที่ราบแองกีอารีแห่งทัสคานี ในปี 1440 ลีโอนาโดจึงใช้โอกาสนี้ทดลองเทคนิคการทาสีน้ำมันแบบใหม่ในการวาดภาพ แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยความล้มเหลว

 

ต่อมาในปี 1550 วาซารีได้รับการว่าจ้างให้เข้ามาตกแต่ง ห้อง Hall of 500 และวาดภาพฝาผนังขนาดใหญ่ไว้ส่วนหนึ่ง แต่ละภาพมีขนาดความสูง 12 ฟิต หรือประมาณ 3 เมตร (ชื่อ Hall of 500 มีที่มาจากจำนวนสมาชิกสภาสาธารณรัฐฟลอเรนซ์ จำนวน 500 คน) ซึ่งมีอยู่หนึ่งภาพ ที่วาดทับลงไปบนภาพเดิมของ ลีโอนาโด ซึ่งเป็นภาพที่วาดไม่เสร็จ แต่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับวาซารีว่า วาซารีมีความเลื่อมใสในตัว ลีโอนาโด จึงไม่ทำลายภาพวาดของลีโอนาโดด้วยการวาดภาพทับลงไป เหมือนเช่นที่หลายคนรับรู้

 

 

มาอูริซิโอ เซราซินี นักวินิจฉัยงานศิลปะแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดีอาโก และ สมาคมเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก ได้ตามหาร่องรอยของภาพดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 36 ปี กล่าวว่า เป้าหมายของการค้นหาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงานวิจัยก็คือ “ภาพสงครามแห่งอังกีอารี” ถูกวาดไว้ที่ไหน ซึ่งเชื่อว่ามันมีอยู่ และยังอยู่ที่นั่น

 

 

นอกจากนี้ยังมีศิลปินที่เลื่อมใสในตัวลีโอนาโดอีกหลายคน ต่างก็วาดภาพเลียนแบบรูปวาดต้นฉบับเดิมที่อยู่บนผนังเอาไว้ ก่อนที่มันจะสูญหายไปในเม็ดทรายแห่งกาลเวลา แต่แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งดีที่มีภาพของ ลีโอนาโดถูกวาดเก็บไว้มากมาย ทั้งหมดนั่นก็ไม่ใช่ภาพต้นฉบับ และภาพเลียนแบบเกือบทั้งหมดมักจะขาดรายละเอียดต่างๆไป เพราะบ้างก็ถูกย่อขนาดลงให้พอดีกับเฟรมผ้าใบ หรือบางภาพไม่วาดตัวอักษรทั้งหมดที่อยู่บนภาพเดิมลงไปด้วย

 

ในปี 1970 มีรอยแตกร้าวเกิดขึ้นบนภาพฝาผนังของวาซารี เมื่อเซราซินีปีนขึ้นไปบนนั่งร้าน ที่ตั้งอยู่หน้าภาพวาดของวาซารีเพื่อดูคำโบราณ 2 คำ ที่ถูกจารึกไว้ในภาพธง เขาได้พบคำว่า “cerca trova” ที่แปลว่า “จงค้นหาแล้วจะค้นพบ” ซึ่งเซราวินีตีความว่า วาซารีได้ทิ้งรหัสลับที่เป็นปริศนาเอาไว้ว่า เขาได้สร้างกำแพงปูนปลาสเตอร์ขึ้นมาบังภาพเดิมของลีโอนาโด และเขียนภาพของตัวเองทับไปบนกำแพงที่สร้างใหม่นั้น

 

ข่าวรายงานด้วยว่า ทีมสำรวจของเซราซินีได้รับอนุญาตให้ใช้เรดาห์คลื่นความถี่สูงสแกนห้อง Hall of 500 ทั้งหมด ซึ่งการสแกนดังกล่าวเปิดเผยให้เห็นพื้นที่ที่เป็นโพรง ซึ่งปรากฏอยู่เพียงแห่งเดียวคือ ด้านหลังภาพวาดที่วาซารีทิ้งปริศนาเอาไว้ ทีมงานจึงวางแผนส่องดูข้างหลังภาพของวาซารี โดยจะใช้สว่านเจาะลงไปบนภาพทั้งหมด 14 รู แต่ละรูห่างกันครึ่งนิ้ว แต่เมื่อสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวนี้ออกไป แผนการนี้ก็ถูกคัดค้านอย่างรุนแรง

 

 

มาร์ติน เคมพ์ นักประวัติศาสตร์ศิลป์ แห่งมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด กล่าวว่า มันได้กลายมาเป็นเรื่องทางการเมืองอย่างรวดเร็วราวกับว่ากำลังจะมีการขุดเจาะบ่อน้ำมันที่มีความลึก 9-12 เมตร ซึ่งสำหรับตน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เราสามารถซ่อมเพื่อปกปิดไม่ให้มองเห็นร่องรอยที่เราเจาะได้

 

ข่าวรายงานอีกว่า ท่ามกลางกระแสสังคมที่คัดค้านอย่างรุนแรง ในช่วงปลายปี 2011 แต่เซราซินีและทีมงานก็ได้รับอนุญาตให้ทำงานต่อไปอีก 1 สัปดาห์ ด้วยเงื่อนไขคือ ห้ามเจาะรูเหมือนอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก และเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายภาพวาดของวาซารี ภัณฑารักษ์อนุญาตให้เซราซินีเจาะรูได้ เฉพาะตรงจุดที่เป็นรอยแตกเดิมและจุดที่กำลังซ่อมแซมอยู่ในปัจจุบัน และเมื่อการเจาะเสร็จสิ้น ทีมนักวิจัยต่างตกตะลึงเมื่อพบว่า ด้านหลังของกำแพงมีภาพที่เขียนบนผนังปูนปลาสเตอร์ซ่อนอยู่จริง

 

 

พวกเขาจึงสอดกล้องเอ็นโดสโคปเข้าไปในรอยเจาะ เพื่อถ่ายภาพพื้นผิวของงานและจุดหลายๆจุด ที่เกิดจากการลากแปรงทาสี เศษวัสดุที่นำออกมาจากรูถูกนำมาวิเคราะห์โดยการ x-rays พบว่า มีเม็ดสีสีดำปนอยู่ในนั้นด้วย

 

ข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากการ x-rays ทำให้เซราซินีตั้งข้อสังเกตว่า เม็ดสีสีดำเหล่านั้นมีความคล้ายคลึงกับสารเคลือบสีน้ำตาลที่พบในภาพ “โมนาลิซา” และ “เซนต์ จอห์น เดอะ แบปทิสต์” ของลีโอนาโด ส่วนชิ้นส่วนสีแดงที่หลุดติดออกมาด้วย น่าจะเป็นแลคเกอร์ซึ่งไม่ใช่สิ่งปกติที่ควรอยู่บนกำแพงปูนปลาสเตอร์ เซราซินีพบส่วนประกอบเฉพาะที่อยู่บนภาพเขียนยุคเรเนสซองซ์ ซึ่งเขาเรียกว่า “หลักฐานสนับสนุน” แต่ด้วยเวลาจำกัด ทำให้ไม่สามารถเก็บหลักฐานเพิ่มเติมได้ เขากล่าวว่า “อย่างน้อยผมก็ได้พบส่วนหนึ่งของงานที่หายไปของลีโอนาโด และพิสูจน์ได้แล้วว่า มันเป็นภาพวาดจริงๆ แต่ผมยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกอึดอัด”

 

 

ขณะที่ ปีเตอร์ ซิดดอน นักฟิสิกส์แห่ง ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ บรูคเฮเวน ซึ่งมีหน้าที่พิสูจน์งานศิลปะที่มีชื่อเสียง ด้วยวิธีตรวจโดยตัวเร่งอนุภาค เปิดเผยว่า “ค่อนข้างแน่ใจได้ว่า มีอะไรบางสิ่งอยู่ข้างหลังภาพฝาผนังของวาซารี แต่รายละเอียดยังไม่เพียงพอ ซึ่งหากดูจากข้อมูลที่เปิดเผยออกมาขณะนี้ ผมเชื่อว่ามีภาพเขียนอยู่จริง เพราะทีมวิจัยพบทั้งสีและรอยแปรง แต่หากจะข้ามไปถึงคำถามที่ว่า นั่นคือภาพของ ลีโอนาโด ดาวินชี หรือไม่ คงต้องเป็นอีกคำถามที่ต้องรอการพิสูจน์”

 

ด้านเคมพ์ แห่งมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ให้ความเห็นว่า ผลที่ออกมาน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ยังไกลจากข้อสรุป เพราะผู้มีฐานะในยุคเรเนสซองส์มักตกแต่งผนังด้วยภาพวาดฝาผนัง ซึ่งเม็ดสีที่พบอาจจะไม่ใช่ของ ลีโอนาโดก็เป็นได้

 

“เรายังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ลิโอนาโดวาดภาพไว้ตรงส่วนไหนของตลอดแนวยาวของผนังห้อง Hall of 500 เพราะสิ่งที่เจอยังไม่สามารถบอกอะไรได้ สำหรับผมสิ่งที่สามารถจะแนะนำได้ในตอนนี้ก็คือ เราต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม”

 

การดำเนินการวิจัยของเซราซินีจึงต้องหยุดชะงักลงในช่วงนี้ และยังไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ จนกว่าประเด็นการเมืองในอิตาลีจะได้รับการแก้ไข และเมื่อการวิจัยดำเนินการต่อ และทีมวิจัยมีหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันได้อย่างชัดเจน การค้นพบนี้จึงจะถูกบันทึก เคมพ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “ปัญหาที่ค้างคาอยู่ในขณะนี้ต้องได้รับการแก้ไข ถ้าหากภาพที่พบนั้นเป็นของจริง นั่นคือการค้นพบหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ”

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: