เปิดประชุมรมต.ดูแลสหกรณ์เอเชีย-แปซิฟิก เกษตรฯเตรียมดันเป็นวาระแห่งชาติ

27 ก.พ. 2555 | อ่านแล้ว 623 ครั้ง

 

เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 27 ก.พ.นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการประชุมรัฐมนตรีที่รับผิดชอบดูแลงานสหกรณ์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 9 (International Cooperative Alliance : ICA) โดยมีรัฐมนตรีจากประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจาก 14 ประเทศ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 400 คน

 

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม พร้อมบรรยายพิเศษหัวข้อ เศรษฐกิจพอเพียงกับสหกรณ์ สรุปว่า หลักการเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานไว้เป็นปรัชญาการพัฒนาเศรษฐกิจตามทางสายกลางที่เหมาะสมกับการดำเนินงานของสหกรณ์ เพราะมีเป้าหมายไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างของสหกรณ์ได้เป็นอย่างดี เพราะวิธีการแบบสหกรณ์นั้นวางอยู่บนหลักการและค่านิยมสหกรณ์ ในเรื่องการช่วยเหลือตนเองและการร่วมมือระหว่างกัน ซึ่งเป็นที่รับรู้กันดีในประโยคที่ว่า "สหกรณ์คือการรวมตัวของบุคคล ไม่ใช่การรวมตัวของเงินทุนเพื่อทำกำไรสูงสุด"

 

“จุดหมายสูงสุดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจึงไม่ได้อยู่ที่การสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นหลัก หากแต่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลและความมั่นคงของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังที่เราได้เห็นจากบทเรียนวิกฤตในอดีต จะพบว่า ความไร้เสถียรภาพของการพัฒนาเป็นบ่อเกิดของความเสี่ยงมากมายต่อผู้คน ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ การพัฒนาที่ไม่มีความเท่าเทียมยังก่อให้เกิดช่องว่างมหาศาลระหว่างคนรวยกับคนจนและนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมและขัดขวางความสามัคคีทางการเมืองและสังคมของประเทศ การพัฒนาที่ไม่สนใจต่อภัยอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมก็จะไม่สามารถป้องกันภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ และการพัฒนาที่ไม่สนใจต่อความเสียหายทางวัฒนธรรมของประเทศก็จะเป็นภัยต่อโยงใยทางศีลธรรมที่มีต่อคนรุ่นถัดไป ฉะนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญต่อ การสร้างสมดุล ในการดำเนินงานแบบสหกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายนานาประการที่เราจะต้องเผชิญในอนาคต” รมว.เกษตรและสหกรณ์กล่าว

 

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ Ms.Dame Paulin Green ประธานองค์การ ICA สำนักงานใหญ่ Mr.Li Chunsheng รองประธานองค์การ ICA ROAP และ : Dr.Chan Ho Choi เลขาธิการ ICA ร่วมกัน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลเตรียมที่จะผลักดันให้งานด้านสหกรณ์ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ เพราะเห็นความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแก้รายละเอียดประเด็นต่างๆ เพื่อที่จะประกาศต่อไป คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งตนคิดว่างานด้านสหกรณ์ เป็นงานเชิงนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญและต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็นปีสหกรณ์สากล ซึ่งงานด้านนี้ได้ถูกยกระดับให้มีความสำคัญในระดับนานาชาติ เพราะเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชนมากขึ้น การประชุมครั้งนี้จะแสดงให้เห็นบทบาทของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนางานด้านสหกรณ์สำหรับประเทศในภูมิภาค

 

ด้าน Ms.Dame Paulin Green กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสดีที่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบดูและงานด้านสหกรณ์จากประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นสมาชิกของ ICA จะได้หารือร่วมกันเพื่อ ผลักดันนโยบายด้านการสหกรณ์ เข้าสู่การประชุมกลุ่มประเทศ จี 20 เนื่องจากงานสหกรณ์ มีส่วนสำคัญในการจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม ทั้งนี้เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า ในการดำเนินนโยบายต่างๆ ควรจะให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นับว่าเป็นภูมิภาคที่มีการดำเนินงานด้านสหกรณ์ที่เข้มแข็ง และน่าจะเป็นภูมิภาคหลักในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการสหกรณ์ ที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน

 

Mr.Li Chunsheng กล่าวว่า เป็นที่น่าดีใจว่าในการประชุมครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรก ที่มีรัฐมนตรี และบุคลากรจากหน่วยงานและองค์กรที่ดูแลด้านนโยบายและกฎหมายซึ่งเกี่ยวข้องกับงานสหกรณ์ จากอีก 21 ประเทศเข้าร่วมประชุม โดยในจำนวนนี้มีผู้นำระดับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบดูแลงานด้านสหกรณ์จากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เข้าร่วมประชุมมากที่สุดถึง 14 ประเทศ ซึ่งถือว่าจะเป็นประโยชน์ในการประชุมหารือร่วมกันในการพัฒนาประเด็นด้าน กฎหมายและนโยบายการสหกรณ์ ให้ก้าวหน้าต่อไป โดยในการประชุมจะมีการร่วมกันออกกฎระเบียบต่างๆ ที่จะมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละประเทศ

 

 Dr.Chan Ho Choi กล่าวว่า  การประชุมในเวทีนี้ถือเป็นประโยชน์หลายด้าน ได้แก่ 1.เป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อการพัฒนางานด้านสหกรณ์ ในภูมิภาค รวมทั้งประสบการณ์ในการทำงานต่างๆของแต่ละประเทศ 2.เป็นความร่วมมือในการกำหนดนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการทำงานด้านสหกรณ์เพื่อให้การทำงานมีความก้าวหน้า 3.เพื่อเป็นการจะให้งานด้านสหกรณ์เข้าไปมีบทบาทด้านสังคม กับประชาชนในแต่ละประเทศ ที่มีการดำเนินงานด้านสหกรณ์อยู่ โดยเฉพาะการให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางในการดำเนินนโยบายต่างๆ เพราะเชื่อว่าจะสามารถนำไปแก้ปัญหาต่างๆได้ และ 4.การใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาบูรณาการกับหลักการสหกรณ์ เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ให้ประชาชนสามารถนำไปใช้เป็นหลักในการดำรงชีวิตได้ต่อไป

 

ทั้งนี้การประชุมระดับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานสหกรณ์ของประเทศ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 9 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2555 ณ อาคาร UNCC สหประชาชาติ ถ.ราชดำเนินนอก โดยมีรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานด้านสหกรณ์จากประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จาก 14 ประเทศ และบุคลากรจากองค์กร และหน่วยงานด้านกฎหมาย และงานสหกรณ์ เข้าร่วมประชุมจำนวนกว่า 400 คน ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของการประชุมที่มีรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมมากที่สุด

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: