ชาวหัวไทรโวยพลังงาน แอบจัดเวทีหนุนโรงไฟฟ้า

วันชัย พุทธทอง TCIJ 26 ก.ค. 2557 | อ่านแล้ว 1946 ครั้ง

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่สำนักงานพลังงานจังหวัดนครศรีธรรมราช นายกณพงศ์ เทพากรณ์ ผอ.สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประชาชน กระทรวงพลังงาน เชิญกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินใน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ประชุมติดตามความเคลื่อนไหว เพื่อเตรียมการก่อสร้าง โดยไม่แจ้งให้ประชาชนที่คัดค้านทราบ หลังจากกลุ่มคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใน อ.หัวไทร ทราบข่าว จึงเดินทางมาขอเข้าร่วมรับฟังการประชุมและแสดงความคิดเห็นทำให้บรรยากาศการประชุมตึงเครียด ก่อนปิดวงประชุม

นายสมิง พิพัฒนานนท์ ชาวบ้าน  ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า วันนี้โรงไฟฟ้าถ่านหิน พลังงานจังหวัดและกระทรวงพลังงาน แอบจัดเวทีเพื่อเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินหัวไทร การจัดประชุมวันนี้มีพิรุธ แอบจัดประชุมโดยไม่แจ้งให้ประชาชนที่คัดค้านเข้าร่วมแสดงความเห็นทั้ง ๆ ที่มีหนังสือที่ยืนยันมาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่ยืนยันกับชาวอ.หัวไทรก่อนหน้านี้ระบุว่า ยังไม่มีแนวคิดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหัวไทร แต่จากเอกสารที่ชาวบ้านได้มาจากเจ้าหน้าโครงการบางคนยืนยันว่าจะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านในอ.หัวไทรจำนวน 2 โรงโรงละ 800 เมกกะวัตถ์  2 โรงรวม 1,600 เมกกะวัตถ์ มีคำถามว่า 1,600เมกกะวัตถ์ ผลิตให้ใครใช้

นายสมิงกล่าวต่อว่า หน่วยงานที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในอ.หัวไทร มีพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือมาตลอด ไม่ตรงไปตรงมา ไม่พูดความจริง เมื่อชาวบ้านจับเท็จได้ก็ยังไม่ยอมรับความจริง ล่าสุดวันนี้แอบจัดเวทีโดยเชิญฝ่ายที่สนับสนุนโครงการเข้าร่วมเวทีเท่านั้น โดยไม่แจ้งให้ผู้ที่มีส่วนรับผลกระทบได้รับทราบ นับเป็นเรื่องที่แย่มากๆ

            “ถามว่าหากความลับในการจัดเวทีวันนี้ไม่ถูกเปิดเผย ชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงไม่ได้รับรู้ไม่ได้เข้าร่วมเวที อะไรจะเกิดขึ้น หากโรงไฟฟ้าถ่านหินดีจริงๆ ทำไมต้องแอบจัดเวที หากเป็นของดีใครๆก็ต้องการ แต่โรงไฟฟ้าถ่านหินทั่วโลกไม่มีใครต้องการที่ มีอยู่ก็มีแผนที่จะลดลงและต้องการจะเลิกผลิตโดยเร่งด่วนข้อมูลเหล่านี้ค้นหาได้ทั่วไปไม่ใช่ความลับ แต่ประเทศไทยทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับกระแสโลก เป็นเรื่องน่าอายอย่างมาก สำหรับคนหัวไทร ขอบอกว่าอ.หัวไทรไม่เหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน” นายสมิงกล่าว

ด้านนายประเสริฐ คงสงค์  ชาวบ้าน อ.หัวไทร กล่าวว่า การแอบจัดเวทีของกระทรวงพลังงานโรงไฟฟ้าถ่านหินและ พลังงานจังหวัดนครศรีธรรมราชในวันนี้ ชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบธรรมของการเข้ามาของ โรงไฟฟ้าถ่านหิน พยายามบิดเบือนข้อมูลความจริงกับประชาชน ไม่มีความจริงใจ การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่ผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม แต่คนเหล่านี้ทำเป็นเล่น ทำกันแบบนี้ได้ยังไง ประเทศนี้ไม่มีกฏกติกาอะไรเลยหรือ ถึงปล่อยให้หน่วยงานเหล่านี้ทำอะไรก็ได้

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมา มีการเวทีการประชุมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหลายเวที และมีข้อสรุปของคนอ.หัวไทรและคนจ.นครศรีธรรมราช ไปแล้วว่า ไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหิน  โดยเฉพาะเวทีสัมมนาทางวิชาการให้ความรู้ประชาชนเรื่องไฟฟ้าถ่านหินสะอาดโดยมีการเชิญผู้แทนของกรรมการสิทธิฯ และนักวิชาการมาให้ข้อมูล และเวทีนั้นได้เชิญทางฝ่าย กฟผ.เข้าร่วมเวทีให้ข้อมูลด้วย แต่ กฟผ.ไม่เข้าร่วมเวที

อีกเวทีจัด เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2554 ผลจากเวทีครั้งนั้น กฟผ.ทำหนังสือตอบกลับมายังชุมชนว่า ไม่มีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่นครศรีธรรมราช และอีกเวทีผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชในสมัยนั้น ร่วมกับกระทรวงพลังงานจัดงานขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นว่าจะเอาหรือไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินหัวข้อ “วิกฤษพลังงานชาติ คนนครจะเอาอย่างไร” จัดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2554 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ผลสรุปคือคนนครศรีศรีธรรมราช ต้องการใช้พลังงานสะอาด ไม่ต้องการพลังงานฟอสซิล

            “วันนี้เมื่อชาวบ้านรับรู้ว่ามีเวที ก็เดินทางมาเข้าร่วม แต่สุดท้ายพวกจัดเวทีก็ต้องปิดเวทีหนี การปิดเวทีหนีไม่ใช่ครั้งแรก แต่พวกนี้ทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน เมื่อจนมุมตอบคำถามไม่ได้ โกหกถูกจับได้ ก็ปิดเวทีหนีไปเฉย ๆ แต่เมื่อชาวบ้านเผลอก็แอบจัดเวทีอีก มันไม่จบไม่สิ้นจริงๆ” นายประเสริฐกล่าว

นายบุญเยือน รัตนวิชา ผู้จัดการสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำปากพนัง กล่าวว่า หากมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้นระบบการเลี้ยงกุ้งของลุ่มน้ำปากพนัง ที่สามารถสร้างเม็ดเงินได้ถึงปีละกว่า 5 พันล้านบาทก็จะล่มสลายเพราะกุ้งที่เลี้ยงสุ่มเสี่ยงต่อการปนเปื้อนจากมลพิษโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะหากมีการตรวจพบว่ามีสารปนเปื้อน ก็ทำให้ไม่สามารถขอใบ GAP (ใบประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งและหลักฐานในการขายกุ้ง) ได้นั่นก็หมายความว่า ไม่สามารถเลี้ยงกุ้งได้

นายบุญเยือนกล่าวอีกว่า เมื่อกุ้งปนเปื้อนสารพิษก็ไม่มีคนชื้อไม่มีคนกิน ผู้เลี้ยงขายกุ้งไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องล่มจม ถามว่าใครรับผิดชอบ เมื่อไม่มีใครรับผิดชอบ มีทางออกเดียวคือหยุดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน แล้วสร้างโรงไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานสะอาดทดแทนอย่างพลังงานลมหรือพลังงานจากแสงแดด

ขณะที่นายสุรเชษฐ์ หรดี พลังงานจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ยังไม่มีข้อมูลไม่รู้เรื่องอะไรมาก เวทีครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีนายสมยศ ขำเกิด เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.หัวไทร เข้ามาปรึกษาว่า อยากหาข้อสรุปเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน จึงเป็นที่มาของการประชุมในครั้งนี้ แต่ยังยืนว่าตนเองยังไม่รู้ข้อมูลอะไร เพียงแต่ขอรับฟังความคิดเห็นจากทุกส่วนในครั้งนี้เท่านั้น

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

http://www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: