ยังไม่ได้ข้อสรุป 'โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน' จะมีต่อหรือไม่

12 เม.ย. 2559 | อ่านแล้ว 1762 ครั้ง


	ยังไม่ได้ข้อสรุป 'โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน' จะมีต่อหรือไม่

ผลประชุมคณะกรรมการโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ทุนโอดอส) จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อในรุ่นที่ 5 ต้องกลับมาดูหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับทุนใหม่อีกครั้ง ให้ต้องกลับมาทำงานในท้องถิ่นเพื่อชดใช้ทุน และเน้นสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ ส่วนจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อในรุ่นที่ 5 หรือไม่นั้นยังไม่ได้ข้อยุติ (ที่มาภาพ: prd.go.th)

12 เม.ย. 2559 เว็บไซต์ไทยรัฐ รายงานว่าพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ทุนโอดอส) ว่าที่ประชุมได้รายงานปัญหาของนักเรียนที่รับทุนไปศึกษาต่อยังสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ว่ามีการทุจริตการสอบและจากการตรวจสอบก็พบว่ามีการทุจริตจริง ดังนั้นจึงเห็นชอบให้พ้นจากสภาพการเป็นนักศึกษาและนักเรียนทุนโอดอส ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งนักเรียนรายดังกล่าวใช้ในการศึกษาไปแล้วนั้นไม่สามารถเรียกคืนหรือให้ชดใช้คืนได้ เพราะไม่มีการกำหนดเงื่อนไขอะไรไว้ ตรงนี้ถือเป็นจุดอ่อน ดังนั้นหากจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อในรุ่นที่ 5 ต้องกลับมาดูหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับทุนใหม่อีกครั้ง ให้ต้องกลับมาทำงานในท้องถิ่นเพื่อชดใช้ทุน และเน้นสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ ส่วนจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อในรุ่นที่ 5 หรือไม่นั้น มีการหารือกันแต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ตนให้กลับไปดูข้อดี ข้อเสียก่อน

รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการสรุปข้อดี ข้อเสียของการดำเนินการทุนโอดอสทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ที่ประชุมได้มีข้อเสนอให้ปรับปรุงการให้ทุนโอดอส ในแง่ของวัตถุประสงค์หลังจากที่กำหนดสร้างบุคลากรให้แต่ละพื้นที่ ควรเพิ่มเติมโดยระบุสาขาที่ขาดแคลนโดยให้เป็นไปตามความต้องการของพื้นที่ด้วย ดังนั้น อาจมีการผลิตในลักษณะแรงงานคืนถิ่น หรือคณาจารย์ในท้องถิ่น ส่วนกรณีที่นักเรียนมีการกระทำความผิดระหว่างรับทุน และต้องพ้นสภาพนักเรียนทุนต้องชดใช้ทุนคืนหรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องพิจารณาใหม่เช่นกัน รวมถึงประเด็นการให้ทุนว่าต้องจำกัดเฉพาะเด็กยากจนหรือไม่ เนื่องจากรุ่น 3-4 ที่ผ่านมามีการอนุโลมให้เด็กที่ไม่ยากจนให้รับทุน ทั้งนี้โดยส่วนตัวตนเห็นว่าหากให้เด็กยากจนชดใช้ทุนคืน ไม่ว่าจะทำผิดหรือไม่ผิด เด็กจะต้องเดือดร้อนแน่ ส่วนรุ่นที่ 5 จะดำเนินการหรือไม่นั้น ต้องขอทราบนโยบายของรัฐบาลก่อน.

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: