สรุปข้อเสนอ 16 กมธ. สนช. ส่งต่อ กมธ.ยกร่าง รอบสัปดาห์ (8-12 ธ.ค.)

15 ธ.ค. 2557 | อ่านแล้ว 1745 ครั้ง

ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในช่วงบ่ายของวันที่ 12 ธ.ค. 2557 ที่ผ่านมา มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ได้รับทราบรายงานรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ตาม 34 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญในราชอาาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว 2557 โดยเปิดโอกาส ให้กรรมาธิการทั้ง16 คณะรายงานกรอบร่าง รธน. คณะละ 5 นาที

 รายงานดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.ความเห็นของ กมธ.สามัญ สนช. 16 คณะ และ กมธ.วิสามัญพิจารณาการศึกษาการผังเมืองและการใช้พื้นที่ 2.การเสนอความเห็นของสมาชิก สนช. และ 3.ข้อมูลความเห็นของ กมธ.สามัญ 16 คณะ และ กมธ.วิสามัญพิจารณาการศึกษาการผังเมืองและการใช้พื้นที่ และข้อเสนอแนะสมาชิก สนช.

 มีความเห็นของ กมธ.ที่น่าสนใจ อาทิ กมธ.การเมือง ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธาน เสนอให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ต้องรวมตัวตั้งคณะบุคคลแล้วทำบัญชีรายชื่อ จำนวนไม่เกิน 2 เท่าของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยคณะบุคคลดังกล่าวจะสมัครในนามพรรคการเมืองหรือไม่ก็ได้ กำหนดให้แต่ละคณะบุคคลมีหมายเลขเดียว ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเลือกได้หมายเลขเดียว และถ้าคณะใดได้คะแนนเกินกว่าร้อยละ 35 ของผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ถือว่าได้รับเลือกตั้งเข้าไปบริหารประเทศ หากไม่มีคณะใดได้ถึงร้อยละ 35 ให้นำคณะที่ได้คะแนนลำดับสูงสุดและรองลงมาให้ประชาชนเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง คณะใดได้คะแนนสูงสุดชนะเลือกตั้ง และให้จัดตั้ง ครม.หรือปรับ ครม.จากบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อ โดยกำหนดดำรงตำแหน่งได้วาระละ 4 ปี ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน

ส่วนของระบบรัฐสภา เสนอให้มี 2 สภาคือสภาผู้แทนราษฎร ที่ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง กำหนดให้จำนวน ส.ส.เหมาะสมกับจำนวนประชากร ให้เลือกได้หมายเลขเดียว และให้มีผู้สมัครเลือกตั้ง สังกัดพรรคการเมืองและผู้สมัครอิสระ ส่วนวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่ง 6 ปีวาระเดียว มีที่มาจากการแต่งตั้งของคณะกรรมการคัดเลือก ประกอบด้วย ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และตัวแทนกลุ่มอาชีพ สำหรับข้อเสนอด้านองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เห็นว่ายังจำเป็นต้องมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และต้องเพิ่มจาก 5 คน เป็น 7-9 คน อย่างไรก็ตาม วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เวลา 9 ปี นานเกินไป อาจทำให้เกิดความเฉื่อยชา

ด้าน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน เสนอให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการตรวจสอบภาครัฐและสามารถฟ้องร้องคดีทุจริตของภาครัฐได้ทั้งต่อศาลและ ป.ป.ช.ในฐานะผู้เสียหายโดยตรง มีกลไกควบคุมไม่ให้นักการเมืองที่เคยต้องคำพิพากษา หรือมีการกระทำทุจริตเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างเด็ดขาด และต้องมีกลไกเอาผิดอย่างต่อเนื่อง เช่น ไม่มีการกำหนดอายุความคดีทุจริตหรือสร้างความเสียหายให้แก่รัฐ หรือกำหนดอายุความสูงสุดเท่าที่ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้

 ขณะที่ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธาน กมธ.การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ เสนอเรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภาควรมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ แบ่งตาม 5 กลุ่มวิชาชีพ คือ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาควิชาชีพ และภาคอื่น ๆ โดยใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง เพื่อคานอำนานและป้องกันเผด็จการสภาผู้แทนราษฎร ส่วนอำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญากับผู้สมัคร หัวคะแนน และผู้เกี่ยวข้อง (ให้ใบเหลือง หรือ ใบแดง) ควรเป็นอำนาจศาลยุติธรรม ทั้งนี้ เสนอให้โอนภารกิจของศาลรัฐธรรมนูญไปสังกัดเป็นแผนกหนึ่งของศาลยุติธรรม

สำหรับการกำหนดวาระดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญจากคราวละ 9 ปี ควรเหลือเพียงวาระละ 4 ปี เพื่อให้ทำหน้าที่บริสุทธิ์ ยุติธรรมไม่ยาวนานจนสร้างเครือข่ายและอิทธิพลที่จะกระทบต่อหน้าที่

ในส่วนของ กมธ.พลังงาน พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธาน กมธ.พลังงาน เสนอว่า รัฐบาลควรออกมาตรการป้องกันการผูกขาดในธุรกิจพลังงาน สร้างการแข่งขันอย่างเท่าเทียม และส่งเสริมให้เกิดการลงทุนของนักธุรกิจในประเทศ เพื่อแข่งขันกับนักลงทุนต่างประเทศ รวมถึงปรับปรุงโครงสร้างด้านพลังงานทั้งระบบให้เป็นไปตามกลไกตลาด ลดการแทรกแซง หรืออุดหนุนโดยรัฐบาล

ด้าน พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง ประธานคณะกรรมาธิการสื่อสารมวลชน การวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสารสนเทศ เสนอให้ กสทช. อยู่ใน พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ หรือ พ.ร.บ.องค์กรเฉพาะ แต่ไม่ต้องอยู่ในรัฐธรรมนูญ พร้อมกันนี้ ให้สื่อกำกับดูแลเนื้อหาข่าวสารให้สมดุล ระหว่างสิทธิเสรีภาพสื่อและผลประโยชน์ของสาธารณะ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติมากกว่านี้ นอกจากนี้ ควรตั้งองค์กรวิชาชีพควบคุมจริยธรรมสื่อสารมวลชน แต่ไม่ให้เป็นการข่มขู่คุกคามการทำหน้าที่ และควรส่งเสริมให้ประชาชนรู้เท่าทันสื่อ เพื่อลดความขัดแย้งของคนในชาติ

จากนั้น ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เห็นสมควรให้จัดส่งรายงานไปให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญด้วยคะแนน 160 คะแนน งดออกเสียง 2 เสียง

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังตั้งคณะกรรมาธิการสามัญจำนวน 17 คน เพื่อพิจารณาเสนอรายชื่อบุคคลที่เห็นสมควรเป็นตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิ และให้ทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม กำหนดระยะเวลา 40 วัน

นอกจากนี้ความเคลื่อนไหวของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดังต่อไปนี้

12 ธ.ค. 57

ผ่านวาระ 3 ร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติผ่านวาระ 3 ร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ด้วยคะแนน 174 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง

สนช.เห็นชอบให้ประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีแบบกลุ่ม เป็นกฎหมาย

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเห็นชอบให้มีการประกาศร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(การดำเนินคดีแบบกลุ่ม) ใช้เป็นกฎหมาย ด้วยเสียง 179 เสียง ต่อ 2 เสียง เพื่อให้มีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองผู้เสียหายจำนวนมากในการดำเนินคดีเพียงครั้งเดียว ลดความซ้ำซ้อนการฟ้องคดี และลดปริมาณคดีที่จะขึ้นสู่ศาล

วิป สปช. เผยกรอบการประชุมเพื่อรวบรวมความเห็นเสนอต่อกมธ.ยกร่างฯ 15-17 ธ.ค.นี้

นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) เผยกรอบการประชุมเพื่อรวบรวมความเห็นเสนอต่อ กมธ.ยกร่างฯ 15-17 ธ.ค.นี้ ยืนยัน ทุกข้อเสนอของสมาชิก สปช. จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ประเทศชาติและการปฏิรูปมากที่สุด

โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เผยตัวแทนเพื่อไทยเสนอความเห็นไห้ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ

พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิชโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เผย ความเห็นของตัวแทนพรรคเพื่อไทยต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุควรยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกการตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการกระทำผิด ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน เชื่อหากรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติจะเป็นรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์

11 ธ.ค. 57

เลขานุการ กมธ.ประชาสัมพันธ์เพื่อการปฏิรูป ระบุ การประชุม 15-17 ธ.ค. ของสปช. จะไม่มีการลงมติ

นายบุญเลิศ คชายุทธเดช เลขานุการคณะกรรมาธิการประชาสัมพันธ์เพื่อการปฏิรูป ระบุ 15-17 ธ.ค.นี้ สปช. นัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในเรื่องการปฏิรูปและยกร่างรัฐธรรมนูญ ย้ำไม่มีการลงมติ พร้อมเผยถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา และช่อง 11 ตลอดการประชุมทั้ง 3 วัน

กมธ.ปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สปช. เสนอให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้เสียภาษี

คณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภาปฏิรูปแห่งชาติ เสนอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้เสียภาษี พร้อมแนะจัดตั้งสำนักงบประมาณแห่งรัฐสภา เพื่อศึกษาและวิเคราะห์การจัดทำงบประมาณภาครัฐ

โฆษก กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ เผย อนุกรรมาธิการ เสนอตั้งสภาตรวจสอบภาคประชาชน

นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ เผย อนุกรรมาธิการ เสนอตั้งสภาตรวจสอบภาคประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ พร้อมแนะเปลี่ยนองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เป็น “องค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ”

ที่ประชุม สนช. มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.การยางฯ ไว้พิจารณาด้วยคะแนน 173 เสียง

ที่ประชุมที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.การยางฯ ไว้พิจารณาด้วยคะแนน 173 ต่อ 1 เสียง พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจำกัดและจัดโซนนิ่งการปลูกยางพารา ขณะ รมช.กระทรวงเกษตรฯ ย้ำ จะพยายามอุตช่องโหว่ของการออกกฎหมายตามที่สมาชิก สนช.เสนอ

10 ธ.ค. 57

หัวหน้า ปชป. ไม่เห็นด้วยเลือกนายกฯ – ครม.โดยตรง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยเลือกนายกรัฐมนตรี และ ครม.โดยตรง เชื่อจะสร้างความขัดแย้ง พร้อมระบุ สถานการณ์ในช่วงนี้ยังไม่นิ่งจึงไม่ควรหยิบยกเรื่องนิรโทษกรรมเข้าพิจารณา

9 ธ.ค. 57

กมธ.ปฏิรูปการกีฬา สปช. เตรียมเสนอให้รัฐธรรมนูญกำหนด การกีฬาเป็นแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ

คณะกรรมาธิการปฏิรูปการกีฬา สปช. เตรียมเสนอความเห็นประกอบการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้กำหนด การกีฬาเป็นแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ และกำหนดการได้รับบริการด้านการกีฬาจากรัฐเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน

คณะอนุกรรมาธิการคณะที่ 10 เสนอตั้งคณะกรรมการเสริมสร้างความปรองดองแห่งชาติ

นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุ คณะอนุกรรมาธิการคณะที่ 10 เสนอตั้งคณะกรรมการเสริมสร้างความปรองดองแห่งชาติ แก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม พร้อมย้ำ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญจะไม่พิจารณารายละเอียดประเด็นการนิรโทษกรรม

กมธ.ปฏิรูปการเมืองสรุปข้อเสนอแนะร่างรัฐธรรมนูญ ชูโมเดลเลือกตั้งนายกฯ- ครม.ทางตรง

กมธ.ปฏิรูปการเมืองสรุปข้อเสนอแนะร่างรัฐธรรมนูญ ชูโมเดลเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีและ ครม. ทางตรง ชี้เป็นนวัตกรรมทางการเมืองรูปแบบใหม่ที่จะช่วยแก้ปัญหาซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้ พร้อมแนะให้มีการปฏิรูปองค์กรอิสระ

8 ธ.ค. 57

ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุ ยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะเลือก ครม. โดยตรงหรือไม่

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติคนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ระบุ ขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติว่าจะเลือกคณะรัฐมนตรีโดยตรงหรือไม่เป็นเพียงการหารือในชั้นกรรมาธิการเท่านั้น พร้อมคาด ปลายเดือนกรกฎาคม 2558 จะเห็นโฉมหน้ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมืองเผยข้อดีเลือกคณะรัฐมนตรีโดยตรงประชาชนได้เห็นรายชื่อก่อน

นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ เผยข้อดีเลือกคณะรัฐมนตรีโดยตรงประชาชนจะได้เห็นหน้าตาและรายชื่อของคณะรัฐมนตรีก่อนตัดสินใจเลือกตั้ง พร้อมยืนยันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ยังมีอำนาจในการตรวจสอบเช่นเดิม

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: